ตอนเย็นของทุกวัน ที่บริเวณมุมทางออกสี่แยกไฟแดง ตลาดเย็นเทศบาลกมลาไสย อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ มีประชาชนมาจับจ่ายซื้อของกันเป็นจำนวนมาก จะเห็นร้านลาบก้อยร้านหนึ่ง มีผู้คนยืนออกันแน่นหน้าร้าน และมี พ่อค้าชายสูงวัยขายลาบก้อยตั้งหน้าตั้งตาปรุงเมนูเด็ดไปด้วยและร้องเพลงไปด้วย สร้างความสนุกสนานคลายเครียดให้กับลูกค้าและพ่อค้าแม่ค้าที่อยู่แผงใกล้ๆ บางคนไม่เคยเห็น ไม่เคยได้ยิน ก็ต้องหยุดฟัง เพราะสุ้มเสียงพ่อค้าคนนี้นั้นไม่ธรรมดา ถือเป็นกลยุทธ์เด็ดเรียกลูกค้าที่ได้ผลอีกแบบหนึ่ง

ลูกค้าหลายคนกระซิบกันว่า พ่อค้าคนนี้บุคลิกและน้ำเสียงเหมือนนักร้องมืออาชีพ เสียงหวานหยดย้อย จึงพากันสงสัยว่าทำไมถึงมาขายลาบก้อยอยู่ที่นี่? และเพลงที่เขานำมาร้องนั้น เป็นเพลงลูกทุ่งยุคเก่าที่หาฟังยาก เมื่อได้ยินแล้วอดใจไม่ได้ที่จะต้องหยุดฟังให้จบ เมื่อครุ่นคิดกันไปมา บางคนจำได้ถึงกับร้องอ๋อขึ้นมาทีเดียว เขาคือ “รักชาติ ศิริชัย” ตัวจริง เสียงจริงนั่นเอง

“รักชาติ ศิริชัย” หรือชื่อจริง นายบุญช่วย จิวิสาย ปัจจุบัน อายุ 66 ปี ตั้งแผงขายลาบก้อย อาหารอีสาน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคโควิด-19 ทำให้งานร้องเพลงที่เคยเป็นอาชีพหลักต้องหยุดไป ส่วนเพลงที่เขานำมาขับร้องขณะทำเมนูสุดแซ่บให้ลูกค้า เป็นบทเพลงลูกทุ่งที่เคยโด่งดังมากในยุค 80 หรือราวปี 2520-2530 เช่นเพลง “ฉันทนาที่รัก” “รักข้ามคลอง” “ฉันทนาใจดำ” “สุขเถิดบัวคำ”

“รักชาติ” เปิดใจกับแฟนเพลงที่วันนี้มาเป็นลูกค้าลาบก้อยว่า หลังยุคเพลงลูกทุ่งลดความนิยมลง ตนก็ยังรับงานอยู่ตามร้านอาหาร งานมงคล งานสังคมต่างๆ พอเกิดโรคโควิด-19 ระบาดส่งผลกระทบกับคนในวงการบันเทิง พวกร้านค้า ร้านอาหารที่เคยไปรับงานร้องเพลงต้องหยุดไป จากนั้นตนก็ได้ไปเปิดร้านขายอาหารตามสั่งหลายแห่งแต่ก็ไปไม่รอด พอดีมีคนที่รู้จักรักใคร่กันดี ชักชวนมาทำธุรกิจขายปุ๋ยและพันธุ์ข้าว ที่ อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ จึงใช้เวลาว่างมาขายลาบก้อยที่นี่ โดยมีภรรยาและลูกชายช่วยกันขาย

ร้านของตนจะเปิดขาย 2 ช่วง ตอนเช้า 06.00-08.00 น. จะขายที่หน้าบ้าน ต.หลักเมือง อ.กมลาไสย ตอนเย็นจะมาขายที่ตลาดเทศบาลกมลาไสย ลูกค้ามาอุดหนุนไม่ขาดสาย ก็ต้องขอกราบขอบคุณลูกค้า และมิตรรักแฟนเพลงเป็นอย่างมากที่จำกันได้ อนาคตหากบรรยากาศการค้าขายดีขึ้น ตนอาจจะเปิดร้านชื่อ “รักชาติลาบก้อย” และสำหรับการร้องเพลงซึ่งเป็นอาชีพที่ตนรัก ก็ยังอยากจะร้องอยู่ หากเจ้าภาพท่านใดมีงานอยากได้ “รักชาติ ศิริชัย” ไปร้องขับกล่อมก็สามารถมาติดต่อได้ ราคาเป็นกันเอง

“รักชาติ” เล่าความหลังก่อนจะมาเป็น รักชาติ ศิริชัย ว่า เดิมตนเป็นคน อ.บ้านแฮด ซึ่งก่อนหน้านี้เป็น อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เริ่มจับไมค์ร้องเพลงครั้งแรกในงานแต่งงานหนึ่ง จากนั้นก็ตระเวนประกวดร้องเพลงในพื้นที่ใกล้เคียงและก็ชนะเป็นส่วนใหญ่ จะเรียกว่านักล่ารางวัลก็ว่าได้ จนช่วงหลังๆ กองประกวดก็จะปฏิเสธไม่ให้เข้าร่วม จึงไปสมัครเป็นนักร้องกับวงดนตรี “จุฬาภรณ์” ที่ จ.มหาสารคาม แต่วงอยู่ได้แค่ 2 เดือนก็หยุด

ต่อมาด้วยความช่วยเหลือของคนในวงการดนตรี “รักชาติ” ได้มีโอกาสบันทึกเสียงเพลงแรกในชีวิต เป็นเพลงของครูชลธี ธารทอง ชื่อ “จดหมายฉบับสุดท้าย” แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ จึงเดินทางกลับบ้านและบวช 1 พรรษา ระหว่างนั้นมีเพื่อนมาพูดคุยเรื่องการเป็นนักร้องที่กรุงเทพฯ หลังจากลาสิกขาออกมาจึงตัดสินใจลงไปกรุงเทพฯ หวังจะไปสมัครเป็นนักร้องกับวง “รุ่งเพชร แหลมสิงห์” ที่ตัวเองยึดเป็นนักร้องต้นแบบ แต่ปรากฏว่า เมื่อเดินทางไปถึง เห็นมีการประกาศขายรถบัสเดินสายของวง “รุ่งเพชร” ทำเอารู้สึกผิดหวังอย่างมากจนต้องคิดหาหนทางใหม่

พอตั้งหลักได้ก็ไปอยู่กับวงดนตรี “ศรีไพร ลูกราชบุรี” จึงมีโอกาสได้ร้องเพลงหน้าเวทีบ้าง ต่อมาเมื่อวงมาเดินสายอยู่แถวภาคเหนือ ตนจึงไปพบ สุชาติ เทียนทอง นักร้องนักแต่งเพลงชื่อดังในยุคนั้น เพื่อฝากตัวเป็นลูกศิษย์ ซึ่งสุชาติก็รับเป็นลูกศิษย์และแต่งเพลงให้ร้องหลายเพลง นอกจากนี้ยังพาตนเข้าห้องอัดเสียงด้วย

จากนั้นตนได้ร้องเพลงของสุชาติหลายเพลง แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ จนมาถึงเพลงที่ 8 ซึ่งเป็นเพลงสุดท้ายที่ตกลงกับสุชาติว่า ถ้าไม่ประสบความสำเร็จอีกก็คงต้องล้มเลิกการผลักดัน และเพลงสุดท้ายที่ทำให้ตนโด่งดังเป็นพลุแตกคือเพลง “ฉันทนาที่รัก” ซึ่งเป็นเพลงยุคแรกๆ ที่กล่าวถึงชีวิตของสาวโรงงาน จากความสำเร็จของเพลง “ฉันทนาที่รัก” รักชาติ ยิ่งทวีความดังมากขึ้นไปอีก จากผลงานเพลงสุดฮิต อย่าง “รักข้ามคลอง” “ฉันทนาใจดำ” และ “สุขเถิดบัวคำ”

“รักชาติ” ทิ้งทายให้กำลังใจผู้ที่ประสบปัญหาชีวิตได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หลายคนต้องตกงาน ครอบครัวต้องอยู่อย่างลำบากว่า ตนเองกว่าจะมาเป็น รักชาติ ศิริชัย ได้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีความผันแปรเปลี่ยน ก็ต้องยอมรับ และทำใจต่อสู้เพื่อความอยู่รอดให้ได้ เชื่อว่าไม่นานทุกอย่างก็คงจะดีขึ้นอย่างแน่นอน..

คอลัมน์ : นิยายชีวิต โดย : อสงไขย
เรื่องและภาพโดย : ยุทธนา เกียรติดำเนินงาม จ.กาฬสินธุ์
แนะนำเรื่องราวชีวิตดั่งนิยาย หรือสอบถามได้ที่ [email protected]
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” เพิ่มเติมได้ที่นี่..