น.ต.ศรายุทธ พัฒนศักดิ์ นายกสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย เผยถึงความคืบหน้าการเก็บตัวฝึกซ้อมเพื่อเตรียมความพร้อมลุยศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม ของนักกีฬายิมนาสติกทีมชาติไทย ที่ศูนย์ฝึกเพื่อการแข่งขันในซอยเพชรเกษม 81 ว่า ขณะนี้นักกีฬาทั้งหมดเข้าสู่ระบบการเก็บตัวฝึกซ้อมอย่างเข้มข้น ภายใต้การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ด้วยการไม่เปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกเข้าไปในสถานที่เก็บตัวฝึกซ้อมอย่างเด็ดขาด พร้อมทั้งระดมผู้ฝึกสอนที่มีความสามารถเข้ามาดูแลในเรื่องโภชนาการและระเบียบวินัยอย่างดี โดยมี ดร.กุสุมาลย์ ประเสริฐศรี อุปนายกสมาคมฯ ในฐานะผู้จัดการทีม และผู้ฝึกสอนต่างประเทศ เป็นผู้ดูแล

ขณะที่ ดร.กุสุมาลย์ ประเสริฐศรี เผยว่า ตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่ถึง 4 เดือน จึงต้องเร่งเต็มที่ วางโปรแกรมอย่างกระชับแต่มีประสิทธิภาพ ด้วยการใส่ท่าที่ยากขึ้นเป็นลำดับ โดยเฉพาะท่าที่นักกีฬาระดับโลกซ้อมกันอยู่ขณะนี้ ดังนั้นนักกีฬาทุกคนต้องมีสมาธิและตั้งใจฝึกซ้อม เพื่อสร้างร่างกายให้ฟิตมากกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งล่าสุดทุกคนมีการพัฒนาที่ดีและอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพึงพอใจ

“การได้อดีตทีมชาติทั้ง ศศิวิมล เมืองพวน และ สีน้ำ รักษ์ภู กลับมา รวมทั้ง ธารธิดา โซเฟีย ริคแคร์ ลูกครึ่งไทย-เยอรมัน มาร่วมทีมชาตินั้นทำให้ยิมศิลป์หญิงมีความแข็งแกร่ง หวังเหรียญทอง ได้เกินกว่า 80 เปอร์เซ็น ส่วน ยิมลีลา ยังมี “ปอปอ” พิยดา พีรมธุกร, “ปิ่น” เบ็ญจพร ลิ้มพานิชย์, ปัณฑิตา ทองสอง และ ดลพร ชุ่มชูจันทร์ ผ่านเกมระดับใหญ่มามากมาย เป็นกำลังหลัก ส่วนคู่แข่งมีเพียง มาเลเซีย กับ ฟิลิปปินส์ เท่านั้น ขณะที่ ยิมนาสติกแอโรบิก ฝึกซ้อมลงตัวมากที่สุด ผิดกับคู่แข่งทุกชาติที่นำระบบการผสมผสานจากยิมลีลาและยิมศิลป์ มารวมกัน ทำให้ท่าที่แสดงอาจจะไม่ลงตัว ดังนั้นคิดว่าไทยน่าจะหยิบเหรียญทองได้ไม่ยากและน่าจะทไเหรียญทองได้มากกว่าครั้งที่แล้ว ที่ทำได้ 1 เหรียญทอง แน่นอน” ดร.กุสุมาลย์ กล่าว