ต้องบอกว่าสภาพเละยิ่งกว่าโจ๊กกับปรากฏการณ์อาฟเตอร์ช็อกสั่นสะเทือนเรือเหล็กสนิมเกรอะ กระตุ้นรอยร้าว รอยรั่วให้กลายสภาพเป็นรอยแตกแยกจวนเจียนอับปางเข้าไปทุกขณะ แม้ “ผู้นำประเทศ” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม จะยืนกรานเสียงแข็ง ไม่คิดปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)หรือยุบสภา ตามเงื่อนไขสถานการณ์ซีเรียสเข้าขั้นหนัก รัฐบาลเรือเหล็กอุดรอยรั่วกันไม่ทัน แม้ทุกฝ่ายจะพยายามทำให้สถานการณ์กลับมาปกติโดยเร็วที่สุดก็ตาม
ตามสถานการณ์ฟัดกันเลือดกบปากในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แบ่งเป็นกลุ่ม เป็นก๊วนชัดเจน ระหว่างทีมหนุน “บิ๊กตู่” กับลูกหาบสาย “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพปชร. อย่าง “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตเลขาธิการพรรค พปชร. เป็นคีย์แมนสำคัญ เปิดเกมสางแค้น “หัก” หอกข้างแคร่ตอบโต้กันไปมาตั้งแต่ศึกเลือกตั้งซ่อมเมืองปักษ์ใต้ จนถึงจุด “หักดิบ” ตะเพิดก๊วน “ผู้กองนัส” พ้นชายคา “บ้าน พปชร.” สำเร็จ
ทว่าหากมองกันเผินๆภาพฉากหน้าออกมาแบบนั้น แต่ลึกๆไม่เป็นอย่างที่เห็น เพราะการ “อัปเปหิ” กันแบบนี้ไม่ได้ทำให้สมาชิกภาพ ส.ส.ขาดสะบั้น แต่ยังสามารถย้ายไปอยู่ค่ายใหม่ได้ภายใน 30 วัน ซึ่งมีค่ายใหม่ “พรรคเศรษฐกิจไทย” ที่มี “บิ๊กน้อย” พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานที่ปรึกษาพรรค พปชร.เป็นหัวหอก และมี “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. น้องในไส้ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค พปชร. เป็นที่ปรึกษาพรรค รองรับให้ “ก๊วนผู้กองนัส” ยกพวกไปสังกัด
แน่นอนว่า “พรรคเศรษฐกิจไทย” คือ “พรรคอะไหล่” เตรียมไว้สำรองสำหรับ “บิ๊กป้อม” หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง โดยมี “บิ๊กฉิ่ง” ฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย เดินเรื่องจดทะเบียนจัดตั้งจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2563 ปัจจุบันนี้มีสมาชิก 8,759 ราย มีสาขาพรรค 7 แห่ง มีคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดก่อตั้ง รวม 18 ราย ส่วนที่ตั้งพรรคอยู่ในซอยมหาดเล็กหลวง 3 ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม.
งานนี้มีรายงานข่าวว่าเบื้องต้นวาง “พล.อ.วิชญ์” เป็นหัวหน้าพรรค “เสี่ยโต” อภิชัย เตชะอุบล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ “นายทุนใหญ่” เป็นเลขาธิการพรรค ขณะที่ “ผู้กองธรรมนัส” วางตัวนั่งรองหัวหน้าพรรค รวมถึงบรรดา 21 ส.ส.-อดีต ส.ส.กลุ่ม “ผู้กอง” มาเป็นโครงสร้างกรรมการบริหารพรรค แว่วๆว่า “พรรคเศรษฐกิจไทย” จะจัดทัพเปิดตัวขุนพลในประมาณช่วงเดือนต้นเดือน ก.พ.นี้
เกมหักดิบชอตต่อชอตเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ ต้องย้ายไปหาถ้ำอื่นอยู่ใหม่ จากเสือที่ถูกล่ามได้เป็นอิสระกลายเป็นเสือซุ่มรอจังหวะเวลาออกมาขย้ำ คนที่ลำบากหนีไม่พ้น “บิ๊กตู่” เจอเกมต่อรองกดดันหนัก จะประคองตัวรอดสมัยประชุมสภานี้ไปได้หรือไม่ เพราะไหนจะฤทธิ์เดชพรรคร่วมรัฐบาล ไหนจะเกมในสภา อยู่ที่ “บิ๊กตู่” จะแก้เกมคาบลูกคาบดอกนี้อย่างไร หรือชิงยุบสภาหนีก่อน จึงเป็นเรื่องที่ต้องจับตาดูกันต่อไปว่ารัฐบาลอยู่พ้นปีนี้หรือไม่.