นายพงศ์ธร จันทราธิบดี ขนส่งจังหวัดยะลา กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ระบบขนส่งสาธารณะ จ.ยะลา ได้รับผลกระทบจากประกาศของรัฐบาลที่มีการควบคุมพื้นที่สูงสุด ที่ให้ประชาชนงดเดินทางออกนอกเคหสถาน ตั้งแต่เวลา 21.00-04.00 น. และให้ระบบขนส่งสาธารณะหยุดให้บริการ ตั้งแต่เวลา 21.00-04.00 น. เริ่มตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา
ตอนนี้พบว่าผู้โดยสารใช้บริการที่สถานีขนส่งผู้โดยสารเทศบาลนครยะลา จ.ยะลา ด้วยรถโดยสารสาธารณะที่ให้บริการในพื้นที่ จ.ยะลา และเชื่อมต่อกับจังหวัดอื่นๆ ลดลง มีไม่เกิน 200 คนต่อสัปดาห์ จากก่อนหน้านี้ที่ยังไม่มีการระบาดโควิดรอบ 3 ช่วงเดือน มี.ค.64 มีผู้โดยสารใช้บริการ 3,000-4,000 คนต่อสัปดาห์ ส่วนวันหยุดยาว อยู่ที่ 7,000-8,000 คนต่อสัปดาห์
นายพงศ์ธร กล่าวต่อว่า สำหรับจำนวนผู้โดยสารลดลง เนื่องจากขณะนี้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) แจ้งให้ผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะสามารถปรับเที่ยววิ่งได้ตามความเหมาะสมกับสถานการณ์ ซึ่งรถโดยสารหมวด 2 เส้นทางกรุงเทพฯ-ต่างจังหวัด ส่วนใหญ่จะเป็นรถโดยสารของบริษัทขนส่งจำกัด (บขส.) จะวิ่งเส้นทางกรุงเทพฯ-ยะลา ตอนนี้ได้หยุดให้บริการ
ขณะที่ผู้ประกอบการรถโดยสารหมวด 3 เส้นทางระหว่างจังหวัด ส่วนใหญ่ผู้ประกอบการนำรถตู้มาให้บริการ เช่น เส้นทางยะลา-หาดใหญ่, ยะลา-ปัตตานี และ ยะลา-นราธิวาส ซึ่งผู้โดยสารจะใช้บริการรถตู้นั่งไป อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการเดินทางเชื่อมต่อไปยังจังหวัดภาคใต้ต่างๆ เช่น จ.ภูเก็ต นครศรีธรรมราช กระบี่ และ พัทลุง รวมทั้งสามารถใช้ระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ อาทิ เครื่องบิน และ รถไฟได้ด้วย
นายพงศ์ธร กล่าวอีกว่า จากผลกระทบดังกล่าว ผู้ประกอบการรถตู้ เส้นทางยะลา-หาดใหญ่ ได้ปรับลดเที่ยววิ่งลงจากวันละหลายสิบเที่ยว ไป-กลับต่อสัปดาห์ ลดเหลือ 2 เที่ยววิ่ง ไป-กลับ ต่อสัปดาห์ เพราะผู้โดยสารไม่มีการเดินทางข้ามจังหวัด ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับเที่ยววิ่ง เพื่อลดการขาดทุน หรือแม้ว่าผู้ประกอบการวิ่งไปไม่คุ้มทุน แต่ต้องวิ่งตามเงื่อนไขประกอบการเดินรถที่กำหนด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้โดยสารบางคนที่จำเป็นต้องเดินทางอยู่
ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้โดยสารที่ใช้บริการ ขนส่งฯ ยะลา ได้ให้บุคลากรด่านหน้า จำนวน 600 กว่าคน เช่น พนักงานที่ให้บริการด้านขนส่งฯ ผู้ประกอบการรถโดยสาร พนักงานจำหน่ายตั๋ว พนักงานที่ทำงานสถานีขนส่งเทศบาลนครยะลา เข้ารับการฉีดซีนป้องกันโควิด-19 ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม นอกจากนี้ยังเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการรถโดยสารและผู้ใช้บริการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขในการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัดด้วย เพื่อลดการแพร่ระบาดดังกล่าว
