เมื่อวันที่ 18 ก.ค. แหล่งข่าวระดับสูงในกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการที่มีสื่อรายงานว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่าจะสั่งซื้อวัคซีนไฟเซอร์เพิ่ม 50 ล้านโดส ว่า ที่จริงแล้วจำนวนวัคซีน 50 ล้าโดสนั้น เป็นแผนการในการสั่งซื้อวัคซีนในกรอบปี 2565 เนื่องจากที่ประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมี 120 ล้านโดส การจัดหาทั้ง mRNA, ไวรัลเวคเตอร์ และโปรตีนซับยูนิต และรูปแบบอื่นๆ ที่เหมาะสมกับการระบาด ดังนั้นจึงมีการเตรียมหารือกับทางบริษัทไฟเซอร์เพิ่มเติม ส่วนวัคซีนไฟเซอร์ที่ที่จะเข้ามาในประเทศไทยปี 2564 นั้น เบื้องต้นเป็นจำนวน 21.5 ล้านโดส แบ่งเป็นล็อตบริจาค 1.5 ล้านโดส ซึ่งคาดว่าน่าจะเข้ามาในปลายเดือนก.ค.2564 ส่วนอีก 20 ล้านโดสเป็นการสั่งซื้อ ซึ่งจะมีการลงนามกันในสัปดาห์นี้ โดยในส่วนนี้ทราบว่าจะมีการแบ่งเข้ามา 2 ล็อต ล็อตแรกก่อนเดือนธ.ค.10 ล้านโดส และอีก 10 ล้านโดสเข้ามาในเดือน ธ.ค. 2564

เมื่อถามถึงกรณีการเชิญทางโมเดอร์นามาหารือ แหล่งข่าวระดับสูงกล่าวว่า การเชิญผู้แทนบริษัทโมเดอร์นามาพูดคุยกัน ก็อยู่ในกรอบการจัดหาวัคซีนสำหรับปี 2565 เนื่องจากทราบว่ามีการพัฒนาวัคซีนเจนเจอเรชั่นใหม่ๆ รวมถึงที่รองรับการบู๊สเข็ม 3 ด้วย เราก็ต้องมีการเจรจาทุกด้าน และยังเจรจากับหลายๆ บริษัท หลายๆ เทคโนโลยีด้วย

เมื่อถามถึงความคืบหน้าการกำหนดสัดส่วนการส่งออกวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าใหม่ แหล่งข่าวกล่าวว่า เรื่องนี้ก็อยู่ที่การเจรจา ไม่ใช่ว่าเราจะไม่ให้เขาส่งออกเลย เพียงแต่ที่ประกาศใช้กฎหมาย พ.ร.บ.ความมั่นคงทางวัคซีน ก็เพื่อให้มีอะไรมารองรับสำหรับการเจรจา เพราะเบื้องต้นที่เราจะเจรจานั้นก็จะขอให้ทางแอสตร้าฯ ส่งมอบวัคซีนให้กับประเทศไทยในส่วนส่วนที่มากกว่าการส่งออกไปนอกประเทศ เพราะปัจจุบันกำลังการผลิตของทางบริษัทผู้ผลิตในประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 15 ล้านโดสต่อเดือน มีการส่งมอบให้ประเทศไทยสัดส่วน 1 ใน 3 ของจำนวนการผลิต.