ถือเป็นซีรี่ส์ที่มาแรงฮอตฮิตสุด ๆ ในตอนนี้ สำหรับ “เนเวอร์เดอะเลส (Nevertheless)” หรือ “รักนี้ห้ามไม่ได้” ผลงานล่าสุดจาก “เน็ตฟลิกซ์” ที่ได้ลูกรัก เน็ตฟลิกซ์ (Netflix) อย่าง พระเอกสุดหล่อ ซงคัง ที่มีผลงานอย่างต่อเนื่อง ทั้ง “สวีทโฮม (Sweet Home)” และ “เลิฟ อลาร์ม (Love Alarm)” เป็นต้น มาถ่ายทอดเรื่องราวความรัก ร่วมกับนางเอกมากเสน่ห์ ฮันโซฮี ที่โด่งดังมากจากเรื่อง “เดอะ เวิล์ด ออฟ เดอะ แมริด (The World Of The Married)”
โดย “Nevertheless” เล่าเรื่องราวของความรักที่ผลิบาน ระหว่างเพื่อนร่วมชั้นในวิทยาลัยศิลปะ โดย “ยูนาบี” (ฮันโซฮี) ผู้ไม่เชื่อในความรัก แต่ยังอยากจะลองคบหาใครสักคน และ “พัคแจออน” (ซงคัง) ที่สนุกสนานกับการลองเดตไปเรื่อย แต่กลับรู้สึกว่าการคบใครสักคนเป็นเรื่องยุ่งยากน่ารำคาญ แม้ทั้งสองจะมีมุมมองต่อความรักต่างกัน แต่พวกเขาก็ได้เริ่มต้นด้วยความสัมพันธ์กุ๊กกิ๊กแบบ Friends With Benefits ที่ทั้งโรแมนติกและแฝงด้วยความเร่าร้อนเล็กๆ ให้ได้ตามลุ้นความรักทั้งคู่ต่อไป โดยเรื่องนี้สร้างจากเว็บตูนชื่อเรื่องเดียวกัน ที่ครองใจแฟนๆ ทั่วโลก ผลงาน คิม การัม ที่นั่งแท่นผู้กำกับและอำนวยการสร้าง
หลังซีรี่ส์ออนแอร์ไปก็ได้รับกระแสตอบรับที่ร้อนแรง โดย ซงคัง ถ่ายทอดความเป็น “แจออน” ที่ทั้งหล่อยั่วแถมยังเป็นผู้ชายร้าย ๆ ได้โดนใจ ทำเอาแฟนหลายคนเกิดอาการคลั่งรัก ด้านนางเอก ฮันโซฮี ก็แสดง “นาบี” ที่ผิดหวังในความรักซ้ำแล้วซ้ำเล่า ได้อย่างน่าเห็นใจ ที่สำคัญเคมีของพระนางก็ถ่ายทอดออกมาละมุน เข้ากันได้ดีสุด ๆ รวมทั้งเนื้อหาที่เข้าถึงแฟน ๆ ไปจนถึงบทพูดก็โรแมนติกไม่ไหว โดยเฉพาะประโยค “ไปดูผีเสื้อกันมั้ย?” ที่ “แจออน” พูดกับ “นาบี” ได้กลายเป็นประโยคฮิตในโลกออนไลน์ในชั่วข้ามคืนทีเดียว งานนี้ “ฮาอึน” จึงไม่รอช้า พาแฟน ๆ ไปพูดคุยกับ ซงคัง และ ฮันโซฮี ที่ได้เปิดใจถึงการทำงาน ในงานแถลงข่าวเปิดตัวซีรี่ส์เรื่องนี้กัน
Q : “ซงคัง” มีงานยุ่งมาก ๆ แล้วอะไรที่ดึงดูดใจคุณในการมาร่วมแสดงซีรี่ส์ “Nevertheless” นี้?
ซงคัง : ตอนที่ผมได้อ่านบทครั้งแรก แม้ว่ามันอาจดูเหมือนเรื่องราวความรักธรรมดา ๆ ในรั้วมหาวิทยาลัย แต่ผมรู้สึกว่ามันแตกต่างจริง ๆ ครับ คุณยังคงได้รับเรื่องราวที่โรแมนติกแสนหวาน เหมือนที่เราคาดหวังกันทั่ว ๆ ไปตามปกติ แต่มันก็มีองค์ประกอบอื่นด้วย ที่ทำให้ดูแตกต่างและก็ทำให้ซีรี่ส์เรื่องนี้โดดเด่น
Q : คุณได้ร่วมงานกับ “พัคอินฮวาน” ในซีรี่ส์ “นาวิลเลรา (Navillera)” มาก่อนหน้านี้ และคุณมีเคมีที่ยอดเยี่ยมกับเขามาก มาในครั้งนี้รู้สึกแตกต่างยังไงบ้างมั้ย?
ซงคัง : ผมคิดว่าการได้ร่วมงานกับเขา ใน ‘นาวิลเลรา’ มันเกือบเหมือนแบบฟอร์มการเรียนรู้สำหรับผม (ในการเป็นนักแสดงที่ดีได้ยังไง) ดังนั้นผมจึงได้เรียนรู้จากกองถ่ายนั้นเยอะมากครับ ส่วนเคมีในครั้งนี้สามารถอธิบายได้ว่าเป็นมิตรภาพที่ยอดเยี่ยม ในแบบที่ผมคิดว่าเรานั้นได้สร้างความสัมพันธ์และการเชื่อมโยงถึงกันขึ้นมา ในฐานะที่เราอายุเท่ากัน ดังนั้นมันคือการสร้างความสัมพันธ์กับคาแรกเตอร์ที่เป็นวัยรุ่นครับ
Q : “ฮันโซฮี” เองได้สร้างความประทับอย่างมากให้กับผู้ชมในซีรี่ส์ “ The World Of The Married” ทำไมจึงได้เลือกแสดงในซีรี่ส์เรื่องนี้?
ฮันโซฮี : ฉันเป็นแฟนพันธุ์แพ้ของเว็บตูนเรื่องนี้เลยค่ะ และก็เหมือนอย่างที่คุณคิม ผู้กำกับพูด คือฉันรู้สึกว่าซีรี่ส์เรื่องนี้เน้นไปที่อารมณ์แบบต่าง ๆ ของใครก็ตาม ที่ต้องอดทนเมื่อตกอยู่ในความรัก และมันก็เป็นรูปแบบของความโรแมนติกที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงด้วย ฉันรู้สึกว่ามันเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่สำหรับฉันในวัยนี้ ในฐานะนักแสดง
Q : มีเสียงลือมากมาย เกี่ยวกับความคล้ายคลึงในเรื่องรูปลักษณ์ระหว่างคุณกับ “นาบี” การทำงานกับสิ่งเหล่านี้เป็นยังไงบ้าง?
ฮันโซฮี : มีหลายคนบอกกับฉันว่า นี่เป็นการเปลี่ยนบทบาทจากใน “เดอะ เวิล์ด ออฟ เดอะ แมริด” อย่างสิ้นเชิงเลย ซึ่งการเข้าถึงบท “นาบี” นี้ เพราะฉันมีหลายอย่างที่คล้ายคลึงกับเธอมาก มันรู้สึกแทงใจดำเลยค่ะ ดังนั้นจึงปรับตัวน้อยมาก ซึ่งหมายความว่าฉันสามารถจดจ่อ และนำตัวเองเข้าไปหาเธอได้
Q : ด้านไหนของคุณ ที่คิดว่าผู้ชมจะได้เห็นผ่านซีรี่ส์เรื่องนี้?
ฮันโซฮี : “ฉันก็ไม่รู้ว่ามันจะเรียกว่าเป็นเสน่ห์ได้มั้ยนะ แต่ฉันหวังว่าผู้ชมจะค้นพบความสัมพันธ์ของเธอ และเรื่องราวเหล่านั้น ที่ฉันได้เล่าผ่านเธอสามารถที่จะสะท้อนความรู้สึกของผู้คนมากมายได้ ซึ่งฉันเองก็พยายามที่ทำให้มันสมจริงมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และฉันก็อยากดึงอารมณ์ของตัวละครของฉันออกมาให้เป็นจริงสุด ๆ ค่ะ”
Q : การที่คุณดูเหมือนคาแรกเตอร์ที่คุณแสดง สร้างความตื่นเต้นมากมาย ดังนั้นคุณคงรู้สึกกดดัน แล้วคุณล่ะคิดว่าจะให้คะแนน สำหรับความเหมือนกับตัวละครนี้ยังไงดี?
ฮันโซฮี : อาจจะ 50 เปอร์เซ็นต์มั้งคะ? คือ ‘นาบี’ รู้ว่านั่นเป็นความสัมพันธ์ที่อันตราย แต่เธอก็ตกลงไปในนั้นอยู่ดี ยังไงก็ตามนะ เมื่อก่อนนี้ฉันก็คงจะทำเหมือนอย่างที่เธอทำ แต่ตอนนี้ฉันผ่านมันมาแล้ว ฉันสะท้อนความรู้สึกของเธอ และก็รู้สึกเห็นใจสงสารเธอนะคะ แต่ฉันจะไม่ทำแบบนั้น”
Q : เพื่อให้การแสดงนั้นเหมือนกับตัวละคร มีตรงไหนที่คุณให้ความสนใจเน้นเป็นพิเศษบ้างมั้ย?
ฮันโซฮี : ความรู้สึกที่ ‘นาบี’ รู้สึกต่อ ‘แจออน’ นั้น เป็นสิ่งที่ฉันรู้สึกว่าเป็นสัญชาตญาณมากเลยค่ะ แต่เธอก็ดึงดูดเขาเช่นกัน ดังนั้นฉันอยากแน่ใจว่าฉันได้แสดงออกไปโดยสัญชาตญาณ ฉันเลยโฟกัสไปที่สิ่งเหล่านี้ เพราะอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ดังนั้นฉันจึงพูดคุยกับโปรดิวเซอร์ตลอดเวลา และเมื่อฉันมีความรู้สึกใหม่ ๆ เกิดขึ้น ฉันก็พยายามรวมมันลงไปในฉากค่ะ
ซงคัง : ตอนที่ผมมองดูที่ ‘แจออน’ เขาดูเหมือนเป็นผู้ชายแสนดี แต่ก็มีความเฉียบแหลมมาก ๆ และความรู้สึกเย็นชา ซึ่งผมอยากถ่ายทอดสิ่งเหล่านี้ออกมา ผมคิดว่าผมอยากดูหลักแหลมมากกว่านี้ ก็เลยไดเอ็ทครับ ลดน้ำหนักไปประมาณ 5 กิโล
Q : สิ่งที่ยากในการแสดงเป็นแสดงเป็น “แจออน” คืออะไร?
ซงคัง : สำหรับ ‘แจออน’ เป็นคนไม่ได้พูดออกมามากมายว่าจริง ๆ แล้วเขารู้สึกยังไง ดังนั้นผมคิดว่ามันก็เป็นอะไรที่ยากในการถ่ายทอดอารมณ์ของเขาครับ บทพูดก็เช่นกัน ความโกรธของเขา ความเศร้า ความสุข เขาไม่ได้แสดงมันออกมาเลย ดังนั้นผมเลยคิดหนักมากในการเข้าถึงสิ่งเหล่านั้น และพูดคุยกับผู้กำกับคิมเยอะมาก ๆ เพื่อดึงมันออกมาครับ
Q : ทั้งคู่รู้สึกยังไงบ้างเมื่อรู้ว่าต้องมาแสดงด้วยกัน?
ซงคัง : ผมคิดว่าด้วยรูปลักษณ์และลักษณะท่าทางของเธอ เหมือนกับ ‘นาบี’ และยังตรงไปตรงมามาก ๆ ดังนั้นผมจึงรู้สึกเซอร์ไพร้ส์และมีความสุขมากที่ได้รู้ว่าเธอจะเป็นนักแสดงคู่กันครับ
ฮันโซฮี : ฉันเองก็คิดว่าเขาเหมือกับ ‘แจออน’ มากเหมือนกันค่ะ ก่อนจะมีซีรี่ส์มันก็มีโพลทางออนไลน์เยอะแยะมากมายเลย และแฟน ๆ ก็เลือกนักแสดงกัน ซึ่งฉันคิดว่าเขาน่าจะเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม ซงคังมีบุคลิกสดใสร่าเริง เสน่ห์ของเขานั้นแตกต่างจาก ‘แจออน’ เพราะว่าเขาดูใสบริสุทธ์มาก ดังนั้นความคอนทราสเหล่านี้ ทำให้เขามีเสน่ห์มากยิ่งขึ้นค่ะ
Q : พวกคุณสามารถเติมเต็มกันและกันได้มั้ย?
ซงคัง : ผมอยากบอกว่าเธอมีความยืดหยุ่นในแง่ของทัศนคติมากครับ ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ผมส่งให้ในด้านการแสดง เธอสามารถตอบรับได้เป็นอย่างดีเลย
ฮันโซฮี : ในชีวิตจริง ความเหมือนของเขากับ ‘แจออน’ นั้นช่วยฉันได้เยอะมากค่ะ ทุกครั้งที่ซงคังมาถึงกองถ่าย ฉันรู้สึกถึงพลังที่เขานำมาแล้วทำให้ทุกคนสดใสขึ้น และฉันยังแสดงได้ดีสุด ๆ เพราะพลังที่ยอดเยี่ยมของเขาด้วย
Q : “แจออน” ทั้งหล่อ มีพรสวรรค์และเป็น “ไอดอล” ของโรงเรียนศิลปะ แล้วคุณเคยสนใจงานด้านศิลปะบ้างมั้ย?
ซงคัง : ‘แจออน’ ทำงานกับเหล็กและโลหะ ผมเองก็เคยลองเรียนรู้วิธีการทำงานด้วยโลหะ และต่อมาก็ศิลปะแก้ว ซึ่งผมก็ติดใจนะครับ ชอบมันเลยล่ะ ตอนนี้ผมพยายามที่เรียนรู้เพื่อเป็นงานอดิเรกหลังจากที่เราถ่ายทำซีรี่ส์เสร็จครับ
Q : การเรียนรู้เกี่ยวกับศิลปะเป็นยังไงบ้าง มีอาจารย์ท่านไหนที่บอกว่าคุณทั้งคู่มีพรสวรรค์บ้างมั้ย?
ซงคัง : มีอาจารย์สอนครับ ในตอนแรกมันก็ทำยาก แต่เมื่อผมเริ่มสนใจเรียนรู้มัน ทั้งกระบวนการ โครงสร้าง มันก็น่าสนใจดี
ฮันโซฮี : ในระหว่างที่ถ่ายทำ ก็มีภาพวาดบางภาพที่ฉันวาดเองด้วยนะคะ อยู่ในบ้านของ ‘นาบี’ คุณก็จะได้เห็นผลงานภาพวาดที่ผ่านมาของฉันค่ะ
Q : มีบทสนทนาหรือฉากไหน ที่ทำให้หัวใจคุณเต้นระรัวมาก ๆ บ้างมั้ย?
ซงคัง : ผมคิดว่าทุกฉากก็ทำให้ใจเต้นรัวนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงบทพูดของ ‘แจออน’ ผมคิดว่ามันคือโมเม้นต์ที่เขาเห็น ‘นาบี’ เป็นครั้งแรก อะไรก็ตามที่เป็นครั้งแรกจะติดตรึงในใจเสมอครับ
Q : บอกอะไรถึงแฟน ๆ ที่กำลังดูซีรี่ส์นี้หน่อย?
ซงคัง : ตัวละครทุกตัวมีบุคลิกลักษณะนิสัย คาแรกเตอร์ และเรื่องราวความรักของตัวเอง นั่นเป็นอะไรที่คุณควรให้ความสนใจตอนที่รับชมครับ
ฮันโซฮี : ใครก็ตามที่เคยมีความรัก ย่อมรู้ดีว่าความรู้สึกที่คุณมีในยามที่มีความรักนั้นเป็นยังไง ดังนั้นเมื่อคุณได้ดูเรื่องนี้ คุณจะหวนนึกถึงความรักที่ผ่านมา บางทีบางคนอาจเริ่มตกหลุมรักได้อีกครั้ง บางครั้งในความสัมพันธ์เราก็ไม่รู้หรอกว่า ความรักและความคลุมเครือนั้นเป็นสิ่งที่ ‘นาบี’ ได้แบกไว้รึเปล่า และฉันก็หวังว่าผู้คนจะสามารถรู้สึกร่วมไปกับเธอได้ และมองดูผ่านตัวเธอ เพื่อที่จะได้เห็นว่าสิ่งที่เธอกำลังรู้สึกนั้น เรียกว่ารักที่แท้จริงหรือไม่ค่ะ
มาตามลุ้นกันว่าความรักต่างขั้ว และความสัมพันธ์ที่เริ่มด้วย Friends With Benefits ของ “นาบี” และ “แจออน” จะลงท้ายกลายเป็นรักแท้ได้หรือไม่ ห้ามพลาดใน “ Nevertheless รักนี้ห้ามไม่ได้” ทาง “เน็ตฟลิกซ์” รวมทั้งติดตามอัพเดทข่าวสารอื่น ๆ ได้ที่ยูทูบช่อง Dailynews Live-TH และเฟซบุ๊ก Dailynews รวมทั้งทุกแพลตฟอร์มของ “เดลินิวส์”
“ฮาอึน” / PHOTO : Netflix , JTBC