จัดเป็นอีกหนึ่งผู้กำกับคนดังที่ทำอะไรก็เป็นกระแสไปเสียหมดสำหรับ พชร์ อานนท์  โดยก่อนหน้านี้เจ้าตัวมีอันต้องประกาศลาออกจากรายการที่ตนเองเป็นพิธีกรไปเพราะเจอดราม่าแรงจากการอ่านข่าว ล่าสุดในรายการปากสว่าง ได้เชิญหนุ่มพชร์มาพูดถึงสาเหตุที่แท้จริงว่าออกเองหรือโดนออก พร้อมทั้งยังได้วิดีโอคอลหา นิก คุณาธิป ปิ่นประดับ ให้ได้เคลียร์ชัดออกจากปากของทั้งคู่กันเลยว่าตอนนี้ มันอะไรยังไงกันแน่

พชร เผยว่า “เรื่องไปหัวเราะแล้วทัวร์ลงคือถ้าใครได้ดูข่าววันนั้นจริงๆ ผมจะไม่ได้พูดถึงน้องเขาที่โดนยิงเสียชีวิตในแง่นั้นเลย ผมจะบอกว่าเรื่องแบบนี้มันไม่น่าเกิดขึ้นในประเทศไทย และที่ผมหัวเราะ ผมไม่ได้หัวเราะในเบรคนั้นนะ ผมไปหัวเราะเบรคหลังๆ ซึ่งเบรคหลังๆ นี้จะเป็นแต่เรื่องราวสนุกสนานเท่านั้น  และในตอนหลังผมยังบอกว่า ขอแสดงความเสียใจกับน้องที่เสียชีวิตด้วยเลย  เอาจริงๆผมรู้ว่าคนสมัยนี้ ถึงว่าจะทำดีแค่ไหน ก็โดนด่าอยู่ดีเพราะฉะนั้นเราต้องอยู่กับสังคมนี้ให้ได้  ผมมองว่าคำว่า “ติ” กับ “ด่า” ไม่เหมือนกันนะ ถ้าติเนี่ย เราไม่สามารถจะฟ้องตำรวจ หรือฟ้องศาลได้  แต่ถ้า “ด่า” เราสามารถที่ฟ้องได้  เช่นคำว่าทะลุถุงยางมาเกิดอะไรแบบนี้ ก็เลยให้ทนายจัดการ คือคนสมัยนี้ก็ด่ากันเกินไปอะไรก็ด่าๆแต่บอกไว้เลยนะว่าไม่เอาดอกไม้แน่นอน!! ขอเป็นเงินสดเท่านั้น!!” 

 “เรื่องลาออก ผมลาออกก่อน ผมรู้ว่ารายการอีก 1-2 เดือนเขาก็จะปิดแล้ว และเหตุผลที่ลาออก ก็จะได้ไม่ต้องทำให้เขาพะวงไงว่าพิธีกรจะไปทำอะไรต่อ ก็เลยประกาศลาออกเลย  ซึ่งเรื่องแบบนี้ผมเจอมาตลอดตั้งแต่อยู่ในวงการมา เจอมาทั้งชีวิต  คิดเหรอว่าเรื่องแค่นี้จะทำอะไรผมได้ อยากจะว่าอะไรก็ว่าไป  แต่ผมมีตังค์ไง ใครจะว่าก็ว่าไป แต่เรารวย  ส่วนเรื่องปั้นใครแล้วเขามาแว้งกัดตลอดอันนี้มันก็แล้วแต่คนนะ เด็กก็ต้องมีแบบคนนี้ดี คนนั้นไม่ดี  กับแตงโม นิดา บอกตรงๆเลยว่า ไม่เคยทะเลาะกันเลยนะ ไม่ได้เจอกับเขามานานมากแล้ว เพิ่งมาเจอกันก็ที่เวิร์คพอยท์นี่แหละ เขาก็เข้ามาว่าเออพี่พชร์เราไม่มีอะไรกันนะ ตัวพี่เองก็ไม่มี ผมเป็นคนที่ไม่ได้โกรธใครแล้วจะจับจิตจับใจเอาไปฝังขนาดนั้น “

นิก เผยว่า “จริงๆเราไม่ได้ทิ้งงานนะ ตอนนี้ก็ได้กลับมาอยู่กับพี่พชร์ได้สักระยะหนึ่งแล้ว  สำหรับผมกับพี่พชร์ เราแค่ไม่เข้าใจกันมากกว่า จริงๆ เราสองคนเนี่ย เรารักกันแหละ แต่เราก็อาจจะมีเรื่องที่ไม่เข้าใจกันบ้าง ซึ่งผมกับพี่พชร์เนี่ย เรามีเรื่องทะเลาะกันบ่อยมากๆ แต่ทุกๆครั้งมันก็จะแบบกลับมาคุยปรับความเข้าใจกันได้ แต่เป็นเรื่องผู้หญิงไหมมันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับงาน และความไม่เข้าใจกันมากกว่า ผมไม่อยากดึงคนอื่นเข้ามาเกี่ยวด้วยครับ

“สิ่งที่เข้ามามันสอนให้ผมโตขึ้นนะ เหมือนสอนว่า เวลาเราทำอะไร เราก็ต้องคิดเยอะๆ ที่ผ่านมาผมอาจจะทำอะไรที่ใจร้อนเกินไป ส่วนหัวใจผมตอนนี้ก็มีครับ ผมก็มีปกติ ซึ่งพี่พชร์เขาก็จะรู้ตลอด  เวลาที่ผมมีแฟน ผมก็ไม่เคยปิดอะไรอยู่แล้ว ผมก็คุยกับพี่พชร์อยู่ตลอด ถามว่าต่อไปจะเชื่อพี่พชร์ไหมขอเป็น cast by cast ได้ไหมครับ (หัวเราะมองหน้าพชร์) เป็นคนๆไป  ผมไม่เคยขออนุญาตพี่พชร์นะ  แต่พี่พชร์ด้วยความที่เขาเป็นห่วงนั่นแหละ เพราะเขาเห็นเรามาตั้งแต่เด็กๆ เลย”