นางพรรณี พุ่มพันธ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า อุบัติเหตุทางถนนส่วนใหญ่มักเกิดจากพฤติกรรมเสี่ยงของผู้ขับขี่ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ (จยย.) ที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุสูงกว่ารถประเภทอื่น ซึ่งจากสถิติอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ 64 ที่ผ่านมา พบว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับรถ จยย. ส่วนใหญ่คู่กรณีจะเป็นรถบรรทุกหรือรถขนาดใหญ่ ดังนั้นเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ สำหรับผู้ขับขี่รถ จยย. ควรหลีกเลี่ยงการขับรถเข้าไปในพื้นที่จุดบอดของรถบรรทุกหรือรถขนาดใหญ่ที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทั้ง 4 จุด ได้แก่

บริเวณด้านหน้า และด้านขวาของรถบรรทุกและรถขนาดใหญ่ซึ่งเป็นจุดที่บดบังทัศนวิสัยในการมองเห็นโดยเฉพาะในระยะประชิดเนื่องจากความสูงของตัวรถด้านหลังของรถบรรทุกผู้ขับรถบรรทุกไม่สามารถมองเห็นด้านหลังของรถจากกระจกมองหลังได้และด้านซ้ายของรถบรรทุกซึ่งเป็นพื้นที่อันตรายที่สุดเนื่องจากเป็นจุดที่มีทัศนวิสัยแคบผู้ขับรถบรรทุกสังเกตเห็นรถคันอื่นได้ยาก ผู้ขับขี่รถ จยย. จึงควรหลีกเลี่ยงขับขี่รถเข้าไปอยู่ใกล้พื้นที่จุดบอดของรถบรรทุกในทุกกรณี ทุกครั้งที่ใช้รถ จยย. ควรสวมหมวกนิรภัย ไม่ขี่เข้าไปประชิดบริเวณดังกล่าว เพื่อความปลอดภัยต่อผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายรถ จยย.

นางพรรณี กล่าวต่อว่า นอกจากจุดบอดของรถบรรทุกหรือรถขนาดใหญ่ที่ผู้ขับขี่รถ จยย. ควรหลีกเลี่ยงแล้วพื้นที่บริเวณไหล่ทางยังเป็นพื้นที่เสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุที่ควรระมัดระวังเป็นอย่างมาก ซึ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่ 65 หรือเทศกาลที่มีวันหยุดต่อเนื่อง ขบ. ได้ขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกกำชับพนักงานขับรถหลีกเลี่ยงการจอดรถบริเวณทางเดินรถหรือไหล่ทาง เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้

นอกจากนี้เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ ผู้ขับขี่รถ จยย. จะต้อง “ดื่มไม่ขับ ไม่ขับรถเร็ว สวมหมวกนิรภัยทุกครั้ง” ซึ่งการสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งที่ใช้รถ จยย. เป็นยานพาหนะในการเดินทางทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายรถ จยย. ช่วยลดความรุนแรงการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการใช้รถใช้ถนน โดยแนะนำให้ประชาชนเลือกใช้หมวกนิรภัยที่มีคุณภาพและมาตรฐาน ตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ทุกครั้งที่เดินทางผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติตามกฎจราจร หมั่นตรวจสอบสภาพรถให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เพื่อลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุ เพิ่มความปลอดภัยให้ตัวคุณ และผู้ร่วมใช้รถใช้ถนน