เมื่อวันที่ 16 ก.ค. ที่รัฐสภา นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 และประธานคณะอนุ กมธ.ครุภัณฑ์ ไอซีที กล่าวว่า ในการประชุมเมื่อวันที่ 15 ก.ค. อนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ ไอซีที ได้พิจารณางบประมาณของกระทรวงสาธารณสุข ที่มีประเด็นน่าสนใจอยู่ที่กรมควบคุมโรค ในเรื่องของวัคซีนที่จัดหาให้กับประชาชน โดยมีการให้ข่าวที่คาดเคลื่อนว่าคณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ ไอซีที แขวนงบประมาณ เพราะไม่สบายใจในการให้งบฯ ซื้อวัคซีน เนื่องจากไม่ได้รายละเอียดเอกสารสัญญา ซึ่งในวันนั้นอธิบดีกรมควบคุมโรคเข้ามาชี้แจงต่อคณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ ไอซีที ด้วยตนเอง โดยใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง จนเวลาล่วงเลยไปเกือบบ่ายโมง ซึ่งท่านติดภารกิจเป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องการป้องกันโรคระบาดในพื้นที่ กทม.ต่อ ดังนั้นมีกรรมาธิการบางส่วนอยากดูสัญญาการจัดซื้อวัคซีนที่เคยเรียกร้องในชั้นกรรมาธิการงบประมาณชุดใหญ่ แต่อธิบดีกรมควบคุมโรคก็ไม่ได้ติดขัด โดยวันนี้จะมอบเอกสารให้กับตนเพื่อนำเข้าที่ประชุมกรรมาธิการงบประมาณชุดใหญ่

“ยืนยันว่ากรรมาธิการงบประมาณฯ ไม่ได้แขวนงบฯ วัคซีน ซึ่งเป็นเพียงการพักการพิจารณาไว้เท่านั้น เรายืนยันทำหน้าที่รอบคอบ แต่ข้อกำจัดเวลาทำให้เกิดความคาดเคลื่อน วันนี้ทางกรมควบคุมโรคก็ติดต่อมาแล้ว และจะเดินหน้าพิจารณาต่อ นอกจากนี้สถานการณ์ประเทศไทยเมื่อเทียบกับทั่วโลกและประเทศเพื่อนบ้านรายวันตอนนี้ หลายประเทศล้วนมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นทุกวัน เช่นประเทศอังกฤษแม้จะฉีดวัคซีนเกิน 80 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนประชากรก็กลับมาติดเชื้อมากที่สุดเมื่อวาน ตั้งแต่มีโรคระบาดมาจำนวนหมื่นกว่าราย แม้จะฉีดวัคซีนที่หลายคนยอมรับเรื่องเทคโนโลยีการผลิตที่ก้าวหนน้าที่สุดคือวัคซีนชนิด mRNA แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญของไทยคือรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขต้องใส่ใจตอบคำถามประชาชนให้มากกว่านี้ เพราะขณะนี้ข่าวสารเรื่องประสิทธิภาพของวัคซีนมีความคาดเคลื่อนค่อนข้างมาก ทำให้ประชาชนไม่สบายใจ ทั้งที่เมื่อเปรียบเทียบกับทั่วโลกแล้วประเทศไทยสามารถรับมือสถานการณ์ได้ดีพอสมควร ซึ่งทุกอย่างมีเหตุผลและที่ไปที่มา” นายสรวุฒิ กล่าว

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ โฆษก กมธ.งบประมาณฯ  กล่าวว่า กมธ.ใช้เวลาไปแล้ว 23 วัน รวม 200 ชั่วโมง รวมหน่วยงานที่ผ่านการพิจารณาแล้ว 16 กระทรวง 16 กองทุน คิดเป็น 60.5 เปอร์เซ็นต์ ของวงเงินงบประมาณ โดยขณะนี้กำลังเข้าสู่การพิจารณางบประมาณในภาพรวมของกระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานในกระทรวงศึกษาธิการทั้งหมด 10 หน่วยงาน 1 กองทุน และเมื่อพิจารณาเสร็จจะตามด้วยกระทรวงยุติธรรม หน่วยงานของศาล และหน่วยงานของรัฐสภา ตามลำดับ

นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า ในส่วนเรื่องวัคซีนของกระทรวงสาธารณสุขนั้นงบประมาณปี 65 แทบจะไม่มีเรื่องวัคซีนเลย เพราะมีงบประมาณอีกส่วนหนึ่งที่รัฐบาลเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้ว โดยทาง กมธ.จะมีการปรับลดงบของกระทรวงสาธารณสุขที่ส่วนใหญ่เป็นแผนงานบุคลากร เช่น เงินเดือน ค่าใช้จ่ายตามสิทธิในส่วนของอัตราบุคคลที่ว่างซึ่งยังไม่มีการบรรจุ อีกส่วนคือรายจ่ายประจำที่สามารถปรับลดได้ เพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินงานรูปแบบใหม่ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 เช่น ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมสัมมนา ค่าใช้จ่ายในการประชุมต่างๆ รวมทั้งลดค่าใช้จ่ายในส่วนค่าที่พักและค่าใช้จ่ายในการเดินทางเพื่อไปปฏิบัติงานนอกสถานที่

นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า สำหรับกองทุนหลักประกันสุขภาพที่ลดลงนั้น เป็นการปรับลดในส่วนของเงินเดือนพนักงาน และลูกจ้างชั่วคราวที่ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการ ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 15 เม.ย. 63 ไม่ได้ปรับลดในส่วนค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาลตามระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า อย่างไรก็ตาม ภายใต้ข้อกำหนดที่มีความจำกัดของวงเงินกระทรวงสาธารณสุขปี 65 ในสถานการณ์การโควิด-19 รัฐบาลมีแหล่งเงินอื่นที่เตรียมไว้สนับสนุนการแก้ปัญหา ทั้งในส่วนของงบกลางปี 63-64 ที่เป็นค่าใช้จ่ายสนับสนุนการเฝ้าระวัง คัดกรอง ติดตามผู้สัมผัส ดูแลรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 สนับสนุนการปฏิบัติงานของ อสม. พัฒนาวัคซีนต้นแบบ และเตรียมความพร้อมรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต และค่าใช้จ่ายในการบรรเทาแก้ไขปัญหาและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในส่วนของ พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท และ พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายที่มีวัตถุประสงค์ทางการแพทย์และสาธารณสุขโดยตรง ทั้งจัดซื้อครุภัณฑ์ วัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อใช้รักษาโควิด-19 เยียวยาและดูแลปัญหาและบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงบำบัดรักษาป้องกันควบคุมโรคและงานวิจัย และการฟื้นฟูดูแลด้านผลกระทบทางเศรษฐกิจ เอกสารเหล่านี้ผ่านรัฐสภาแต่ก็มีการพยายามพูดถึงว่าทำไมไม่มีการบริหารจัดการ

นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ขณะพิจารณางบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการ เราได้ถามตัวแทนที่มาชี้แจงว่านักเรียนนักศึกษามีประมาณกี่คน และจะหาวัคซีนมาฉีดให้พวกเขาเหล่านั้นได้อย่างไร ซึ่งเราได้หารือร่วมกันว่าจะหางบตรงนี้แปรญัตติปรับลดลงมาเพื่อช่วยเหลือนักเรียนนักศึกษาอย่างไร นอกจากงบ 1.5 ล้านล้านแล้ว รัฐบาลจะช่วยเสริมตรงนี้หรือไม่ ต้องอย่าลืมว่างบ 65 จะเริ่มใช้หลังจากผ่านสภาฯ ในวันที่ 1 ต.ค. วันนี้หากเราไม่มี พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้าน ซึ่งนักการเมืองบางกลุ่มตั้งป้อมบอกไม่รับหลักการ ถ้าไม่ให้วันนี้ประชาชนควรจะตำหนิใคร เราพยายามเกลี่ยงบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุด.