เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รองผบช.สตม. เปี่ยมมนัส รอง ผบก.ตม.6 พ.ต.อ.ภคยศ ทนงศักดิ์ ผกก.สส.บก.ตม.6 และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกันแถลงข่าวตำรวจตรวจคนเข้าเมืองชุมพร (ตม.จว.ชุมพร) ทลายขบวนการลักลอบนำพาคนจีน-มาเลเซีย โดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านเพื่อไปทำงานในบ่อนกาสิโนประเทศเพื่อนบ้าน หลังชุดสืบสวน ตม.จว.ชุมพร ร่วมกับตำรวจภูธร จว.ชุมพร และ สภ.ละแม ตั้งจุดตรวจความมั่นคงทุ่งสวรรค์ บนถนนเอเชีย 41 ขาขึ้นกรุงเทพฯ พบรถตู้โดยสารไม่ประจำทางต้องสงสัยทะเบียนภูเก็ต มีนายธนัตถ์กรณ์ ป็นคนตรวจสอบภายในรถพบชาวจีนและชาวมาเลเซีย รวม 6 คน มีหนังสือเดินทาง 4 คน แต่ไม่ผ่านการตรวจอนุญาตฯ ส่วนอีก 2 คน ไม่มีหนังสือเดินทาง จึงจับกุมนายธนัตถ์กรณ์ ข้อหาร่วมกันช่วยเหลือ ,ซ่อนเร้นให้คนต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ส่วนชาวจีนและชาวมาเลเซีย แจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต

จากการสอบสวน นายธนัตถ์กรณ์ ให้การว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายประสิทธิ์ ให้รับคนต่างด้าว 6 คน ที่โรงแรมในตัวเมืองหาดใหญ่ไปส่งที่ถนนพระราม 2 กรุงเทพฯ โดยจ้างในราคา 16,000 บาท มีนายปวิตรลูกชายของนายประสิทธิ์ ทำหน้าที่ประสานงานและให้การช่วยเหลือในการกระทำความผิด ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลกล้องวงจรปิดที่โรงแรม พบว่ามีนายจิรพัทธ์ ทำหน้าที่เปิดห้องพักให้คนต่างด้าวเข้าพักที่ อ.หาดใหญ่ และนายบาราเห็ง ทำหน้าที่รับขนคนจากจังหวัดชายแดนภาคใต้มาส่งที่โรงแรมใน อ.หาดใหญ่

จากการตรวจสอบข้อมูลเส้นทางการเงิน พบว่านายประสิทธิ์ ได้รับการว่าจ้างจากนายอุทัย โดยมีหลักฐานการโอนเงิน และนายอุทัย ได้รับการว่าจ้างจากนางยัน ชาวเมียนมา และยังตรวจสอบพบหลักฐานการโอนเงินของนายมาหมัดให้นายบาราเห็ง เพื่อเป็นค่าจ้างในการขนคนต่างด้าวด้วย จึงจะรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลจังหวัดหลังสวนออกหมายจับนายบาราเห็ง ,นายจิรพัทธ์ ,นายประสิทธิ์ ,นายปวิตร ,นายมาหมัด และนายอุทัย ซึ่งนายอุทัย ยังหลบหนี จากการสืบสวนเชื่อว่า ทั้งหมดเป็นขบวนการรับจ้างขนส่งชาวจีนและมาเลเซีย โดยใช้ไทยเป็นทางผ่าน เพื่อไปทำงานในบ่อนกาสิโนประเทศเพื่อนบ้าน

นอกจากนี้ชุดสืบสวน ตม.จว.สงขลา ร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.6, สภ.หาดใหญ่ และ ส.รฟ.หาดใหญ่ กก.3 บก.รฟ. ทลายเครือข่ายลักลอบช่วยเหลือคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง โดยจับกุมนายโสภณ หรืออ้วน อายุ 46 ปี สัญชาติไทย นายหน้าผู้ให้การช่วยเหลือคนต่างด้าว 3 คน พยายามลักลอบขึ้นรถไฟเพื่อเดินทางไปกรุงเทพฯ โดยกล่าวหาว่าให้ที่พักพิง ซ่อนเร้น ช่วยเหลือด้วยประการใด ๆ ให้คนต่างด้าวนั้นพ้นการจับกุมจากพนักงานเจ้าหน้าที่ พร้อมคนต่างด้าว 3 คนเป็นชาวจีน 2 คน มาเลเซีย 1 คน ดำเนินคดีข้อหาเป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต

จากการสืบสวนขยายผล ตรวจสอบข้อมูลทางเทคนิค เส้นทางการเงิน ตรวจสอบกล้องวงจรปิด รวมไปถึงปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายต้องสงสัย ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุคนต่างด้าวทั้ง 3 คน หลบหนีเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติชายแดนไทย-มาเลเซีย ด้าน จ.นราธิวาส โดยการชักชวนของนายหน้ามาเลเซีย ซึ่งติดต่อกับนางยัน หรืออาชิว ชาวเมียนมา และนายหว่อง ชาวมาเลเซีย นายหน้าฝั่งประเทศไทย ต่อมาเมื่อคนต่างด้าวสามารถลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรได้แล้ว นายหว่อง จะทำการติดต่อนายบาราเห็ง ขาวไทย ให้นำพาคนต่างด้าวมาพักคอยที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่บ้านด่านนอก ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา 1 คืน ก่อนที่นายหว่อง จะรับคนต่างด้าวทั้งหมดมาส่งต่อให้นายโสภณ ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อที่นายโสภณ จะได้รับช่วงนำพาคนต่างด้าวต่อไปยังกรุงเทพฯ ก่อนที่จะถูกจับกุม ซึ่งคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองชี้ภาพยืนยันว่านายบาราเห็ง เป็นผู้ครอบครองรถแท็กซี่และเป็นผู้ขับขี่รับพวกตนพามาส่งที่โรงแรม

ต่อมาชุดสืบสวน ตม.จว.สงขลา นำหมายค้นศาลจังหวัดนาทวี เข้าตรวจค้นที่บ้านนางยัน ผลการตรวจค้นพบนางยันพักอาศัยอยู่ และพบหลักฐานสมุดบัญชีที่ใช้ โอนเงินให้นายโสภณ เป็นค่านำพาคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง โทรศัพท์ที่ใช้ในการติดต่อ และหลักฐานอื่น ๆ รวม 16 รายการ นำส่งสภ.หาดใหญ่ ดำเนินคดีนางยัน ในข้อหาให้ที่พักพิง ซ่อนเร้น ช่วยเหลือด้วยประการใด ๆ ให้คนต่างด้าวพ้นจากการจับกุมจากพนักงานเจ้าหน้าที่ จากนั้นจับกุมนายหว่อง และนายบาราเห็ง ที่ได้เข้ามอบตัว นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป