เมื่อปี พ.ศ. 2560 ชาวบ้านในอำเภอโนนสัง สุวรรณคูหา นากลาง ของจังหวัดหนองบัวลำภู ได้ทำเรื่องร้องทุกข์ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส พร้อมกับทิ้งท้ายวลีที่ฟังแล้วชวนขนลุกว่า “ในน้ำมียา ในนามีอ้อย แผ่นดินหนองบัวลำภูอาบยาพิษ” แทบไม่น่าเชื่อว่าชาวบ้านในจังหวัดหนองบัวลำภูต้องซื้อน้ำกิน เพราะไม่มีใครกล้านำน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น ห้วย หนอง คลอง บึงมาดื่ม เนื่องจากเต็มไปด้วยสารพิษ ทั้งๆ ที่ประชากรส่วนใหญ่มีฐานะยากจน

ปัญหาสืบเนื่องมาจากจังหวัดหนองบัวลำภู มีการปลูกอ้อยและใช้ยาฆ่าหญ้ามากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทย และส่วนผสมหลักของยาฆ่าหญ้า คือ สาร “พาราควอต” ที่มีฤทธิ์กัดเนื้อเยื่อของมนุษย์ ทำให้ทุกปี ปัญหาเรื่อง เนื้อเน่า เป็นปัญหาหลักของทุกโรงพยาบาลในเขตจังหวัดหนองบัวลำภู ทำให้สุขภาวะของคนที่นี่ไม่ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ตำบลบุญทัน อำเภอสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบัวลำภู มีการตรวจพบสารพาราควอตในหนองน้ำธรรมชาติที่เป็นแหล่งน้ำดิบของชุมชน ถึง 34.22 มิลลิกรัมต่อลิตร เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2560 โดยทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนเรศวร และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบุญทัน จึงได้ออกประกาศเตือนชาวบ้านไม่ให้นำน้ำจากแหล่งน้ำดังกล่าวมาใช้ในการอุปโภคบริโภค เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับร่างกายของชาวบ้าน โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคเบาหวาน หรือคนที่มีบาดแผล ห้ามสัมผัสน้ำโดยตรง ส่งผลให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สั่งการให้ นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล และคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมชาวบ้านที่ตำบลบุญทัน อำเภอสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบัวลำภู โดยมีอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายวิชัย สามิตร และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายณัฐวุฒิ กองจันทร์ดี พร้อมนายกเทศมนตรีตำบลบุญทัน และชาวบ้านในตำบลบุญทันให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวว่า น้ำสะอาด ถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อการดำรงชีพของมนุษย์ เพราะร่างกายของมนุษย์มีน้ำเป็นส่วนประกอบถึงร้อยละ 70 นอกจากนี้ ทุกวันคนเราต้องใช้น้ำ ทั้งน้ำในการอุปโภค คือ น้ำที่ใช้ชำระร่างกาย ล้างหน้า แปรงฟัน รวมไปถึงน้ำดื่ม เนื่องจาก ทุกวันนี้ผู้คนส่วนใหญ่ต้องซื้อน้ำกินอย่างน้อยวันละ 10 บาท ปีหนึ่งต้องเสียเงินถึง 3,650 บาท ถ้าครอบครัวใดมีสมาชิก 5 คน ในหนึ่งปีต้องเสียเงินซื้อน้ำดื่มถึง 18,250 บาทต่อครอบครัว นับเป็นการซ้ำเติมผู้มีรายได้น้อย แต่ถ้าเรามีน้ำดื่มสะอาดฟรี ก็จะทำให้แต่ละครอบครัวประหยัดเงินได้กว่า 20,000 บาทต่อปี

อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ที่ผ่านมารัฐบาล โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มอบหมายให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลดำเนินการจัดหาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อการอุปโภคบริโภคแก่ประชาชนในพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งขาดแคลนน้ำ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551-2564 รวมทั้งสิ้น 18,250 แห่ง ปริมาณน้ำบาดาลที่สามารถพัฒนาเพื่อการอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้น 403 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี จำนวนครัวเรือนที่ได้รับประโยชน์ 2.1 ล้านครัวเรือน ซึ่งบ่อน้ำบาดาลที่มีการเจาะและพัฒนาจะต้องมีการส่งตัวอย่างน้ำบาดาลจากทุกบ่อและทุกโครงการเพื่อให้กองวิเคราะห์น้ำบาดาลทำหน้าที่ตรวจสอบ วิเคราะห์ เพื่อยืนยันคุณภาพของน้ำบาดาลก่อนนำไปใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ของโครงการ โดยในปีงบประมาณ 2564 มีการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างน้ำบาดาลรวมทั้งสิ้น 8,879 ตัวอย่าง และกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้ปรับปรุงแก้ไขคุณภาพน้ำให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานน้ำบาดาลที่จะใช้บริโภคได้ ทำให้ประชาชนมีน้ำกินน้ำใช้ที่สะอาดและปลอดภัย

สำหรับพื้นที่ตำบลบุญทัน อำเภอสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบัวลำภู หลังจากที่นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล และคณะ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมพื้นที่ และรับฟังปัญหาของประชาชนแล้ว กรมทรัพยากรน้ำบาดาล จะเร่งจัดทำโครงการจัดหาน้ำดื่มสะอาดให้กับประชาชน คาดว่าภายในเดือนพฤษภาคม 2565 พี่น้องประชาชนตำบลบุญทัน อำเภอสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบัวลำภู จะมีระบบน้ำประปาสะอาด พร้อมมีบ้านน้ำดื่มฟรีใช้อย่างแน่นอน.