วันนี้ (16 ธ.ค.) นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เปิดเผยว่า ในการก้าวขึ้นสู่ปีที่ 32 เอไอเอส ได้ตั้งเป้าหมายยกระดับองค์กรจาก ดิจิทัลไลฟ์ เซอร์วิส โพวายเดอร์ สู่การเป็น ค็อกนิทิฟ เทลโค่ (Cognitive Telco) ที่เป็นองค์กรอัจฉริยะ โดยจะมุ่งมั่นกับ 3 เป้าหมายหลัก คือ 1. เพิ่มประสิทธิภาพ สร้างประโยชน์ให้แก่ลูกค้าอย่างสูงสุดจากธุรกิจไร้สาย 2. ต่อยอดกลไกแห่งการเติบโตผ่านธุรกิจ อินเทอร์เน็ตบ้านและบริการลูกค้าองค์กร และ 3. ลงทุนในธุรกิจดิจิทัลเพื่อการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต เพื่อส่งมอบประสบการณ์รูปแบบใหม่สอดคล้องกับชีวิตวิถีใหม่ หรือ นิวนอร์มัล ให้แก่คนไทยอย่างดีที่สุด

“การควบรวม ของคู่แข่ง เอไอเอสไม่สนใจเลย สนใจแต่ลูกค้าของเราต้องการอะไร วันนี้การแข่งขันไม่พูดถึงเรื่องเร็วกว่า แรงกว่าแล้ว ควรจะต้องพูดถึงการให้บริการที่ตอบสนองลูกค้าได้มากกว่า จึงได้วางเป้าหมายขึ้นเป็น องค์กรอัจฉริยะในอนาคต ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีที่สุด และสร้างความแตกต่างให้มากที่สุด โดยในช่วงต้นปีหน้า ทางเอไอเอส จะประกาศแผนงานทั้งหมดอีกครั้ง อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการแข่งขันในตลาดปีหน้าจะเปลี่ยนไป เมื่อเหลือผู้เล่นหลักในตลาดเพียงสองราย

นายสมชัย กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเอไอเอส ได้ลงทุนให้การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ประเทศไปแล้ว กว่าล้านล้านบาท แบ่งเป็นส่งมอบเงินให้ประเทศ 523,000 ล้านบาท  และลงทุนเครือข่ายและใบอนุญาตกว่า 481,000 ล้านบาท โดยจะยังไม่หยุดการลงทุน โดยปัจจุบันได้ขยายโครงข่าย 5 จี ครอบคลุม 76% แล้ว ซึ่งเทคโนโลยี 5 จี จะทำให้เกิดบริการใหม่เพิ่มขึ้นมา ซึ่งต้องใช้ดาต้าจำนวนมาก จึงต้องมีการวางโครงสร้างพื้นฐานให้รองรับ โดยเฉพาะเรื่องเทคโนโลยีเมตาเวิร์ส ที่กำลังจะมาในอนาคต สำหรับการรวมทุนกับ เอสซีบี คาดว่าจะมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินออกมาได้ในช่วงเดือน มี.ค.65 ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในการดำเนินการขั้นตอนต่างๆอยู่

อย่างไรก็ตามในส่วนของธุรกิจ เอไอเอส ไฟเบอร์ หรือ อินเทอร์เน็ตบ้าน ก็จะมีการขยายธุรกิจ โดยคาดหวังว่าในอนาคตจะสามารถขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในตลาดได้ ซึ่งล่าสุดได้ให้บริการความเร็วได้ถึง 2 กิกะบิต เป็นรายแรกและรายเดียวในไทย เพื่อตอบสนองความต้องการจากวิถีชีวิตยุคนิวนอร์มัล

ด้าน นายกิตติ งามเจตนรมย์ หัวหน้าฝ่ายงานบริหารธุรกิจฟิกซ์ บรอดแบนด์ เอไอเอส กล่าวว่า การเข้าสู่ธุรกิจเน็ตบ้าน เมื่อ 6 ปีที่แล้วได้สร้างปรากฏการณ์ซึ่งพลิกโฉมของตลาดเน็ตบ้านไปอย่างสิ้นเชิงให้เน้นที่คุณภาพและนวัตกรรม จากการเปิดตัวอินเทอร์เน็ตบ้าน ความเร็วสูงสุด 1 Gbps รายแรกและรายเดียวที่ให้บริการไฟเบอร์แท้ 100% และปัจจุบันเอไอเอส ไฟเบอร์ เป็นผู้เล่นหลักของตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดเหนือตลาดมาตั้งแต่ปีแรกที่เข้าสู่ตลาด ถึงวันนี้ สามารถวางโครงข่ายไฟเบอร์ให้บริการครอบคลุมพื้นที่กว่า 3.5 ล้านครัวเรือนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และรวมกว่า 8  ล้านครัวเรือนทั่วประเทศทั้ง 77 จังหวัด ได้รับความไว้วางใจจากคนไทยแล้วกว่า 1.7 ล้านราย และยังมีเป้าหมายเดินหน้าพัฒนาคุณภาพของการใช้งานควบคู่ไปกับการให้บริการเพื่อสร้างประสบการณ์ที่เหนือกว่าสำหรับลูกค้าและคนไทย