“เทพมุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าทีมชาติไทย ที่ทำสถิติดาวยิงตลอดกาลอาเซียน ยิงรวมแล้ว 19 ประตู กล่าวว่า ดีใจกับสถิตินี้ จริง ๆ ไม่เคยคิดเหมือนกัน แค่ทำให้ดีที่สุด แต่ทำสถิตินี้ได้ก็ดีใจครับ รู้สึกหายเหนื่อยกับระยะเวลาที่ผ่านมา มันเป็นสิ่งพิเศษที่สุดที่มันเกิดขึ้นกับตน

“ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้เหตุการณ์มันเกิดขึ้นเร็วมาก และผมรู้สึกว่ามันเหมือนผ่านมาไม่นาน จำได้ว่าครั้งหนึ่งเคยขึ้นไปรับรางวัลดาวซัลโวโดยที่ตัวเองรู้สึกเฟลมาก เพราะทีมเราได้รองแชมป์” โดยเมื่อปี 2008 ธีรศิลป์ ได้ดาวซัลโวร่วม ส่วน 2012 ได้ดาวซัลโวเดี่ยว ทว่าทีมจบด้วยรองแชมป์

ธีรศิลป์ กล่าวถึงจังหวะประตูแรกในเกมที่ชนะ ฟิลิปปินส์ 2-1 ที่ยิงได้อย่างสวยงาม จน มาโน โพลกิง กุนซือของทีม ถึงขั้นชื่นชมหลังจบเกมว่าเป็นลูกยิงระดับโลก ว่า ตามจังหวะเกมครับ ซึ่งถ้าให้ยิงแบบนี้ครั้งต่อๆ ไป ก็ไม่รู้ว่ามันจะสวยแบบนี้หรือไม่ ยิงไปตามสัญชาตญาณ คิดว่าเป็นจังหวะที่พอดีมากกว่า ไม่ติดบล็อกกองหลัง และอยู่ในมุมองศาที่สามารถเป็นประตูได้ ถือว่าเป็นจังหวะที่พอดี

เจ้ามุ้ย กล่าวยัง ตอบคำถามถึงอนาคตกองหน้าทีมชาติรุ่นต่อไปว่า เชื่อว่าพอถึงวันหนึ่งจะมีนักเตะรุ่นน้องก้าวขึ้นมา นักฟุตบอลไทยในตำแหน่งกองหน้ามีคุณภาพอยู่แล้ว แต่อาจจะด้วยการต่อสู้แย่งตำแหน่งในลีกทำให้โอกาสลงสนามมีน้อย คิดว่าถ้านักเตะตำแหน่งกองหน้าชาวไทยได้รับโอกาสลงเล่นทั้งสโมสรและทีมชาติ ทีมชาติไทยจะมีพัฒนาการที่ดีขึ้น สามารถเรียนรู้และพัฒนาให้เป็นนักฟุตบอลที่มีคุณภาพได้ เหมือนที่ตนเคยได้รับโอกาสจากทีมชาติ

“ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย จะลงสนามฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020” นัดสุดท้าย รอบแรก กลุ่ม A พบ “เจ้าภาพ” สิงคโปร์ ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ วันที่ 18 ธ.ค.64 เวลาไทย 19.30 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง 7 HD หมายเลข 35 โดยทั้ง 2 ทีม ชนะ 3 นัดรวด เข้ารอบรองชนะเลิศแน่นอนแล้ว โดยไทยผลต่างประตูได้เสียดีกว่า เสมอจะเข้าที่ 1