เอียน ริคอร์เดล รองประธานฝ่ายบริหารของ G7 ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทรถแท็กซี่ที่ใหญ่ที่สุดของปารีส แถลงว่า เมื่อค่ำวันเสาร์ที่ผ่านมา คนขับแท็กซี่ในสังกัดของบริษัทรายหนึ่งประสบอุบัติเหตุในรถเทสลา โมเดล 3 ซึ่งเป็นรถที่เขาใช้รับ-ส่งผู้โดยสารให้บริษัทด้วย โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจากที่เขาเลิกงานแล้ว และกำลังขับรถคันดังกล่าวเพื่อพาครอบครัวไปยังร้านอาหาร
แหล่งข่าวให้ข้อมูลว่า อุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน มีผู้บาดเจ็บอีก 20 คน โดยแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับการสืบสวนกล่าวว่า มีผู้บาดเจ็บสาหัส 3 คนด้วยกัน ขณะที่สำนักข่าวฝรั่งเศสรายงานว่า รถยนต์คันดังกล่าวชนคนขี่จักรยาน 1 ราย และคนเดินถนนอีก 3 ราย ก่อนที่จะพุ่งชนกับรถตู้ มีคนได้รับบาดเจ็บสาหัส 7 ราย
บริษัท G7 กล่าวว่าบริษัทจะระงับการใช้งานรถยนต์เทสลา โมเดล 3 ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 37 คัน จนกกว่าตำรวจจะสืบสวนคดีนี้จนเสร็จเรียบร้อย ขณะที่ทางเทสลายังไม่แสดงความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้
ริคอร์เดลกล่าวอ้างถึงคำพูดจากบริษัทเทสลาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า จากการสอบถามเบื้องต้น ไม่มีความผิดพลาดทางเทคนิคในรถยนต์ ส่วนทางผู้บริหารของ G7 กล่าวว่าคนขับได้พยายามเบรกรถแล้ว แต่รถกลับเร่งเครื่องเร็วขึ้น แทนที่จะหยุด ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนว่าขณะเกิดเหตุนั้นมีการเปิดใช้โหมดออโตไพลอตหรือไม่
เฌโรม กูเมต์ นายกเทศมนตรีของเขต 13 ของปารีส โพสต์บนทวิตเตอร์ว่า จากการสืบสวนขั้นต้นบ่งชี้ว่าเกิดการติดขัดที่คันเร่ง
ริคอร์เดลกล่าวว่า “วันนี้ เรามุมมองสองมุมที่แตกต่างกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ เราจะยังคงระงับการใช้งานรถเทสลา โมเดล 3 ไว้ก่อน ขณะที่การสืบสวนดำเนินต่อไป เป็นการทำตามมาตรการรักษาความปลอดภัยของคนขับรถและลูกค้าของเรา รวมถึงผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่น ๆ ด้วย”
บริษัทเทสลาเก็บข้อมูลจากเซ็นเซอร์ตรวจจับและกล้องที่ติดตั้งอยู่ในรถยนต์ของบริษัท ในอดีต เทสลาเคยใช้ข้อมูลเหล่านั้นมายืนยันต่อข้อกล่าวหาว่าอุบัติเหตุต่าง ๆ เกิดขึ้นเพราะความผิดพลาดในการทำงานของเทคโนโลยีที่ใช้ในรถ
ริคอร์เดลกล่าวว่า คนขับของบริษัทที่เป็นเจ้าของรถเทสลา โมเดล 3 จะได้รับเงินชดเชยอย่างเต็มที่ เนื่องจากสูญเสียรายได้ระหว่างการงดใช้รถรุ่นดังกล่าว และทางบริษัทก็กำลังมองหาตัวเลือกรถยนต์รุ่นอื่นมาทดแทน เพื่อให้คนขับของ G7 สามารถกลับมาทำงานได้โดยเร็วที่สุด
เขายังกล่าวอีกว่า บริษัทได้ติดต่อกับทางรัฐบาลแล้ว ในระหว่างรอผลจากการสืบสวนของตำรวจ
บริษัท G7 เป็นหนึ่งในบริษัทให้บริการรถแท็กซี่ที่ใหญ่ที่สุดของกรุงปารีส โดยมีคนขับรถที่ร่วมงานกับบริษัท 9,000 คน ในรูปของคนขับอิสระที่มีพาหนะเป็นของตัวเอง จำนวนครึ่งหนึ่งของรถยนต์ที่ขับให้บริษัท G7 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถยนต์ไฮบริด โดยทางบริษัทตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะเป็นบริษัทรถแท็กซี่สายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแบบ 100% ให้ได้ภายในปี 2570
เครดิตภาพ : Getty Images
