“มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา ซัดไป 4 ลูก ใน 2 นัดหลัง แบ่งเป็นนัดละ 2 ลูก ทำให้ประตูรวมของเขาที่ยิงในรายการชิงแชมป์อาเซียน ไปอยู่ที่ 19 ลูก

เป็นดาวซัลโวตลอดกาลรายการนี้ แซง นอห์อลัมชาห์ ของสิงคโปร์ ที่ยิง 17 ลูก

เกมดับ ปินส์ มาโน โพลกิง ยึดนักเตะชุดเดิม จากนัดชนะ เมียนมา เปลี่ยนแค่ สุภโชค สารชาติ ที่ยิงแล้ว 2 ลูก ลงมาแทน ศุภชัย ใจเด็ด

รูปเกมคล้ายนัดก่อน เราครองเกมอย่างสิ้นเชิง นวดไป นวดมา รอว่าได้เมื่อไหร่

ประตูแรก เป็นการเข้าทำที่เด็ดขาด บาดใจ การเปิดเร็ว ยิงเร็ว ของ ธีราทร บุญมาทัน กับ ธีรศิลป์ แดงดา นั่นคือ 10 เต็ม 10

นัดกับ เมียนมา เราก็มาเหนือๆ แบบนี้ แต่พลาดไม่เสียประตู และยิงยาวสู่การคว้าชัย

แต่ไม่ใช่นัดนี้

ฟิลิปปินส์ เปลี่ยนโอกาสอันน้อยนิด และความผิดพลาดครั้งใหญ่ ของ มานูเอล ทอม เบียรห์ ที่โหม่งตั้งใส่พานทองฝังเพชร ไปเข้าทางตีน แพทริค ไรเชลท์ ดาวเตะสุพรรณบุรี เอฟซี ยิงเข้าไป เสมอ 1-1

ถ้าเสมอกัน เราก็ยังเครียดถึงนัดท้าย และสิ่งสำคัญคือ ขุนพลหลักอาจไม่ได้พัก

ในช่วงซึมๆ หลังโดนยิง ก็ได้หายใจโล่งอก จุดโทษของไทยมา ซึ่งชัดเจนอย่างยิ่งว่า ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ โดนอากีนัลโด เตะร่วง

ก่อน ธีรศิลป์ สังหาร

และไทยเก็บงาน คว้า 3 แต้ม ลิ่วเข้ารอบรองชนะเลิศ

นัดสุดท้ายวันที่ 18 ธ.ค. กับ สิงคโปร์ จะเข้าแผนของ มาโน โพลกิง คือเปลี่ยนให้รายอื่นได้ลงสนาม และพักตัวหลักบ้าง เพราะ 2 เกมหลัง โดนไล่เตะจนระบมแล้ว

การจะเข้าที่ 1 หรือที่ 2 นอกจากความเท่แล้วก็ไม่ส่งผลอะไรกับเส้นทางสู่แชมป์ เพราะกลุ่ม B จะเตะหลังเรา 1 วัน ดังนั้น เราเลือกไม่ได้อยู่แล้ว ว่าจะเจอใคร เวียดนาม, อินโดนีเซีย หรือ มาเลเซีย

ประการสำคัญคือ เวลาที่เหลือ จะได้มาเสริม เติม แต่ง จุดแข็ง

และกลบจุดอ่อนให้มิด

โดยเฉพาะในแนวรับ ที่ยังน่าหวาดเสียว

นัดก่อน ฉัตรชัย บุตรพรม ทำสะดุ้ง

นัดนี้ มานูเอล ทอม เบียรห์ จัดให้

พลาดแล้วพลาดไป ให้กำลังใจกัน ยังดีที่ไม่โดนลงโทษหนัก

แต่จากนี้ไป ในรอบรองฯ รอบชิงฯ จะเหวอไม่ได้อีก

ครองเกมเยอะ ทำเกมรุกมาก หากมาตกม้าตายเพราะพลาดกันเอง มันจะน่าช้ำใจอย่างยิ่ง.
.
*** วุฒินล ***