เปิดฉากไปเป็นเวลา 2 เดือนว่าๆ แล้ว สำหรับ “เวิลด์ เอ็กซ์โป  2020 ดูไบ” ที่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ ยูเออี ซึ่งประเทศไทยได้ร่วมแสดงศักยภาพ จัดแสดง “อาคารประเทศไทย” หรือ “ไทยแลนด์ พาวิลเลียน” ในครั้งนี้ด้วย

โดยได้รับความสนใจจากผู้ร่วมงานจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการจัดงาน “วันชาติไทย” เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา อย่างยิ่งใหญ่ที่ Al Wasl Plaza โดมหลักใจกลางงานเวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 ดูไบ เพื่อน้อมรำลึกถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็นที่รักยิ่งของคนไทยทุกคน โดยมี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เป็นตัวแทนในนามรัฐบาลไทย

พร้อมด้วยนายวราวุธ ภู่อภิญญา เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอาบูดาบี ดร.อรรชกา สีบุญเรือง ประธานกรรมการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (ทีเส็บ) นายพลพีร์ สุวรรณฉวี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ประจำรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายชัยรัตน์ ศิริวัฒน์ กงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ( ดีป้า ) และคณะผู้บริหารระดับสูงจากภาครัฐ และภาคเอกชน ร่วมงานกันโดยพร้อมเพรียง

สร้างสีสันถ่ายทอดเอกลักษณ์ไทย

โดยภายในงานได้มีการจัดการแสดงพื่อเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรม พร้อมถ่ายทอดเอกลักษณ์ความเป็นไทย ด้วยการแสดงพิเศษ ภายใต้แนวคิด “มิราเคิล ออฟ สไมล์ มหัศจรรย์แห่งรอยยิ้ม โดยมีตัวแทนคนรุ่นใหม่ นำโดย  เก่ง – ธชย ประทุมวรรณ พร้อมเยาวชนไทยร่วมแสดง รวมถึงการแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ ชุดยกรบ โดยนักแสดงจาก กระทรวงวัฒนธรรม เป็นการเฉลิมฉลองความภาคภูมิใจของชาติไทยที่เชิญชวนทุกคนมาร่วมฉลองไปด้วยกัน ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมชมงานอย่างมาก

ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส และ ดร. ธานี บิน อาเหม็ด อัล เซยูดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าต่างประเทศ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ไทยติดท็อป 5 พาวิลเลียนยอดนิยม

สำหรับภาพรวมการเปิดอาคารแสดงประเทศไทยมาได้ 2 เดือนนั้น ทาง นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส บอกว่า ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากมีผู้เข้าชมแล้วมากกว่า 5 แสนคน จากยอดผู้เข้าชมงานทั้งสิ้น 4 ล้านคน และได้รับการพูดถึงมีการไลฟ์ การแชร์จำนวนมาก โดยอาคารแสดงประเทศไทยได้รับความนิยมติดท็อป 5 จาก 192 ประเทศ และได้รับเสียงชื่นชมจากผู้เข้าชมงาน ผู้จัดงานและสื่อมวลชนต่างชาติว่าประเทศไทย มีการเตรียมพร้อมในการแสดงศักยภาพเป็นอย่างดี

ซึ่งจะช่วยให้เกิดผลถึงความเชื่อมั่นในการมาท่องเที่ยวมาลงทุน โดยเฉพาะยูเออีมีการค้าการลงทุนกับไทยจำนวนมาก ถือเป็นศูนย์กลางของตะวันออกกลาง และมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร การค้าการลงทุนต่างๆ ระหว่างกัน นอกจากนี้ในเรื่องของสุขภาพ คนยูเออี ก็มีการเดินทางไปรักษาพยาบาลที่ไทยจำนวนมาก รวมถึงการท่องเที่ยวด้วย ซึ่งหลังจากโควิด เชื่อว่าประเทศไทยจะเป็นประเทศแรกๆที่คนในภูมิภาคตะวันออกกลาง จะเลือกเดินทางไป ท่องเที่ยวและรักษาพยาบาล

ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ ทางเจ้าภาพคาดหมายว่าจะมีผู้เช้าชมงานทั้งสิ้น 25 ล้านราย ซึ่งคาดว่าจำนวน 10% หรือ 2.5 ล้านคนจะแวะมาเยี่ยมชมอาคารแสดงประเทศไทยด้วย

ปั้นรายได้เข้าประเทศพันล้าน

ทางด้านหน่วยงานที่ดูแล อาคารประเทศไทยนั้น ทาง นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า บอกว่า ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา หากนับเฉพาะในโซน Mobility อาคารแสดงประเทศไทยได้รับความนิยมอันดับ 1 โดยเสียงตอบรับคนที่เข้าชมอาคารแสดงประเทศไทยส่วนใหญ่จะชอบ และมีนักลงทุนมีความสนใจประเทศไทย เช่น สตาร์ทอัพ จากประเทศเอสโตเนีย บริษัทดิจิทัลจากสหรัฐอเมริกา ฯลฯ โดยสิ่งที่ต้องปรับอาจจะทำให้เป็นบิสสิเนสมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับช่วง เดือนปลาย ธ.ค.64-ม.ค.65 ที่จะมีกิจกรรมพิเศษ เทศกาลดิจิทัลและนวัตกรรม จะมีทางกลุ่มสตาร์ทอัพ และนวัตกรรมของไทยมาทำ บิสสิเนส แมตชิ่ง หรือจับคู่เจรจาทางธุรกิจ ซึ่งได้บอกทางนักลงทุน ที่เข้าเยี่ยมชมไปว่า หากสนใจสามารถเข้ามาพูดคุย ถึงโอกาสในการลงทุน หรือการทำธุรกิจในประเทศไทยได้

 “หลังจากมีการโปรโมทผ่านทางสื่อต่างๆ และสื่อทางยูเออี ก็ได้รับเสียงตอบรับดี ซึ่งหลังสถานการณ์โควิด-19 ลดลง มีการเปิดประเทศแล้ว เชื่อว่านักท่องเที่ยวเหล่านี้พร้อมที่จะเดินทางไปไทย โดยจากประมาณการว่าจะมีผู้เยี่ยมชมงานตลอด 6 เดือน มากกว่า 2 ล้านคน และหาก 10%  หรือประมาณ 2 แสนคนมีการเดินทางไปท่องเที่ยวในไทยต่อ ซึ่งถือเป็นนักท่องเที่ยวคุณภาพ มีการใช้จ่ายต่อหัวสูง หากมีการท่องเที่ยวต่อเนื่อง หรือทำเรื่องสุขภาพ ซึ่งเดือน ม.ค.65 จะมีกลุ่มอุตสาหกรรมบริการด้านสุขภาพของไทยมาร่วมงานด้วย ซึ่งเชื่อว่าการเข้าร่วมงานเวิลด์ เอ็กซ์โป ครั้งนี้จะช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกลับเข้าประเทศได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท”

ดึงยูเออีเที่ยวไทยใช้จ่ายสูง

สอดคล้องกับข้อมูลของ นายวราวุธ ภู่อภิญญา เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอาบูดาบี บอกว่า ยูเออี ถือเป็นประเทศที่มีฐานะร่ำรวย  หลังจากไทยเปิดประเทศแล้ว นักท่องเที่ยวจากยูเออีเดินทางเที่ยวประเทศไทยเป็นอันดับ 2 รองจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นนักท่องเที่ยวคุณภาพใช้เวลาพำนักท่องเที่ยวเฉลี่ย 1 สัปดาห์ และมีบางคนอยู่ยาวถึง 1 เดือน และมีการใช้จ่ายเฉลี่ย 7,000 บาทต่อวันต่อคน ซึ่งนักท่องเที่ยวเหล่านี้ ส่วนหนึ่งที่เข้าไปใช้บริการด้านสุขภาพ ในโรงพยาบาลของไทยด้วย ก็สามารถสร้างรายได้ ในกับภาคธุรกิจสุขภาพและบริการด้วยเช่นกัน

นายวราวุธ ภู่อภิญญา เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอาบูดาบี

สำหรับตัวเลขการค้าระหว่างสองประเทศในช่วง 10 เดือนแรกของปี 64 (ม.ค.-ต.ค.) มีมูลค่า 311,000  ล้านบาท แต่ไทยยัง ขาดดุลการค้าให้กับทางยูเออีอยู่เนื่องสินค้าที่ไทยนำเข้ามีมูลค่าสูง เช่น น้ำมัน ฯลฯ ส่วนสินค้าที่ไทยส่งออกมา จะเป็นรถยนต์ ส่วนประกอบรถยนต์ และ เครื่องปรับอากาศ ฯลฯ ซึ่งทางสถานทูตไทย จะพยายามส่งเสริมให้ทางยูเออี เข้าไปลงทุนในไทยเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) นอกจากนี้ในการเดินทางมาร่วมงานวันชาติไทยในงาน เวิลด์ เอ็กซ์โป ดูไบ ทาง นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส ก็ได้มีการหารือกับทางยูเออีในการทำเอฟทีเอระหว่างสองประเทศในอนาคตด้วย

ผู้ประกอบการไทยพร้อมเสิร์ฟ

ขณะที่ผู้ประกอบการไทยในดูไบ คือ โรงแรมเซ็นทารา มิราจ บีช รีสอร์ท ดูไบ ซึ่งเป็นการร่วมทุน ระหว่างโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา ของไทย และนาคีล (Nakheel) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ชั้นนำ ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

โดยทาง น.ส.สุชีรา ลีลาสาธิตกุ ผู้อำนวยการฝ่ายห้องพัก โรงแรมเซ็นทารา มิราจ บีช รีสอร์ท ดูไบ บอกว่า เครือเซ็นทาราได้เข้ามาร่วมลงทุนและเพิ่งเปิดโรงแรมแห่งนี้เมื่อเดือน  ต.ค.64 ที่ผ่านมา โดยมีห้องพักกว่า 600 ห้อง และมีพนักงาน 300 คน เป็นคนไทยเกือบ 100 คน ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี ห้องพักเต็มเกือบตลอด โดยผู้เข้าพักส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรป และตะวันออกกลาง ซึ่งบางส่วนจะเดินทางมาท่องเที่ยวและพักอยู่ยาว จึงมองเห็นโอกาสอีกมากมายในการบุกเบิก ขยายธุรกิจในดูไบ ขณะเดียวกันโรงแรมก็หวังว่าจะเป็นจุดหมายสำหรับชาวไทย และเอเชียที่เดินทางมาท่องเที่ยวหรือทำงานในดูไบด้วยเช่นกัน

“เวิลด์ เอ็กซ์โป ดูไบ” ไม่ใชเพียงแค่การจัดแสดงนิทรรศการเท่านั้น ทั้งหมดยังเป็นโอกาส ในการต่อยอดทางด้านเทคโนโลยี การค้า การลงทุนและท่องเที่ยวให้กับประเทศและผู้ประกอบการไทยในอนาคตอีกด้วย.

จิราวัฒน์ จารุพันธ์