สำนักข่าวซินหัวรายงานจากเมืองฉางซา ประเทศจีน เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ว่านายอรรถยุทธ์ ศรีสมุทร เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศจีน ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวซินหัว ระหว่างร่วมงานนิทรรศการอุตสาหกรรมการขนส่งทางราง และการผลิตอุปกรณ์นานาชาติจีน ( China International Rail Transit and Equipment Manufacturing Industry Exposition ) จัดที่เมืองฉางซา เมืองเอกของมณฑลหูหนาน ระหว่างวันที่ 8-11 ธ.ค.


นายอรรถยุทธ์กล่าวว่า จีนได้สร้างโครงข่ายทางรถไฟขนาดใหญ่ที่สุดในโลก รวมถึงเป็นผู้นำโลกด้านการผลิตและการดำเนินการด้านการขนส่งทางราง จึงหวังว่าจีนและไทยจะส่งเสริมความร่วมมือด้านนี้ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น


ปัจจุบัน จีนเป็นเจ้าของเทคโนโลยีหลักของการผลิตทางรถไฟความเร็วสูง และสามารถผลิตรถไฟความเร็วสูงฟู่ซิง พร้อมสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาโดยอิสระอย่างสมบูรณ์ ส่วนระยะทางรถไฟความเร็วสูงที่ให้บริการสูงเกิน 38,000 กิโลเมตร จัดเป็นอันดับหนึ่งของโลก


“รถไฟความเร็วสูง” เปรียบเสมือนนามบัตรทางการทูตและอัตลักษณ์ประจำตัวของจีน ขณะความร่วมมือตามแผนริเริ่ม หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ( บีอาร์ไอ ) ขยับขยายอย่างต่อเนื่อง โดยมีการคาดการณ์ว่า ทางรถไฟความเร็วสูงของจีนจะทะลุ 50,000 กิโลเมตร ภายในปี 2568


เอกอัครราชทูตกล่าวต่อไปอีก ว่าผลิตภัณฑ์การขนส่งทางรางของจีนไม่เพียงมีประสิทธิภาพ คุณภาพ และความสะอาด แต่การออกแบบยังเรียบง่ายและทันสมัยด้วย โดยโครงการรถไฟใต้ดินของไทยได้ใช้ขบวนรถไฟ และระบบควบคุมของจีนเป็นจำนวนมาก


เมืองจูโจว ถือเป็นฐานอุตสาหกรรมอุปกรณ์การขนส่งทางรางแห่งแรกของจีน ที่มีมูลค่าผลผลิตสูงกว่า 1 แสนล้านหยวน ( ราว 5 แสนล้านบาท ) และส่งออกผลิตภัณฑ์สู่ประเทศและภูมิภาคต่าง ๆ มากกว่า 70 แห่ง เช่น มาเลเซีย ปากีสถาน ตุรกี และอีกหลายประเทศ


นายอรรถยุทธ์กล่าวด้วยว่า ผู้ประกอบการด้านการขนส่งทางรางของจีนไม่เพียงมอบผลิตภัณฑ์ซึ่งมีคุณภาพสูง แต่ยังจัดการฝึกอบรมความรู้แก่วิศวกร โดยวิศวกรไทยจำนวนมากได้เรียนรู้ระบบขนส่งทางราง จากผู้ประกอบการ และสถาบันการศึกษาระดับสูงในเทียนจิน ฉางชุน ฉงชิ่ง และที่อื่น ๆ ของจีน


ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตกล่าวทิ้งท้าย ด้วยความหวังว่าจีนและไทยจะสามารถกระชับความร่วมมือด้านการขนส่งทางรางให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในอนาคต และจัดตั้งความเป็นหุ้นส่วนเชิงลึกในด้านนี้ รวมถึงหวังว่า จีนจะสามารถช่วยไทยสร้างโครงข่ายทางรถไฟที่มีประสิทธิภาพ ความรวดเร็ว และความทันสมัยยิ่งขึ้น.

ข้อมูล : XINHUA

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES