ข่าวสังคมภูมิภาคใต้ตอนล่าง…หึ่งกติกา “จัดซื้อจัด-จ้าง”ต้องจ่ายเงินทอน23%

@ ยังมีเหตุความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง สำหรับสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการก่อกวนจาก “แนวร่วม” กลุ่มติดอาวุธ จากขบวนการแบ่งแยกดินแดนเป็นระยะๆ ทั้งใน จ.นราธิวาส, ยะลา และ ปัตตานี ที่ต้องให้ความสำคัญคือการยิง “ชาวพุทธ” ที่มีอาชีพ “หาของป่า” เสียชีวิต ที่ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส และ เจ้าหน้าที่ทหาร ทำการ “วิสามัญ”  ผู้ก่อเหตุทันทีทันควัน ทำให้ “แนวร่วม” เสียชีวิต 1 ศพ….ประเด็นที่ต้องให้ความสนใจคือ “มวลชน” ในพื้นที่จำนวนมาก รวมตัวแสดงความไม่พอใจกับมาตรการความ “ล่าช้า” ของขบวนการทาง “กฎหมาย” ที่กว่าจะนำศพ “แนวร่วม” มาถึง รพ.เพื่อมอบให้ญาติพี่น้องนำไปประกอบพิธีทางศาสนาอิสลามเกินกว่า 20 ชั่วโมง มีการรวมตัวมี “แกนนำ” โจมตี การทำงานของเจ้าหน้าที่ มีการ “ไอโอ” กล่าวหาเจ้าหน้าที่ และมีการ “แห่ศพ” เหมือน “แนวร่วม” ที่มีหมายจับเป็น “หางว่าว” เป็น “นักรบ” เป็น “วีรบุรุษ” เพื่อเป็นตัวอย่าง และให้มีการ “เอาอย่าง” ทั้งหมดคือปัญหา “ยืดเยื้อ” ที่ส่งสัญญาณถึง “อันตราย” ที่ ขบวนการดับ “ไฟใต้” ภายใต้การนำของ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ต้องทบทวนการปฏิบัติการที่ผ่านมาว่า ทำไมงานด้านสร้างความเข้าใจกับ “มวลชน” และขอความร่วมมือกับผู้นำ “ศาสนา” จึงไม่ได้ผล และจะมีแนวทางอย่างไรจึงจะแก้ปัญหานี้ได้….

@ ที่สำคัญเดือนสุดท้ายของปี 2564 ถ้าฟังจากงาน “การข่าว” ในพื้นที่ จะรู้ว่ามีความเคลื่อนไหวของ “แนวร่วม” เกิดขึ้นทั้ง 3 จังหวัด โดยมี “เป้าหมาย” เจ้าหน้าที่รัฐ “สายข่าว” และ สถานที่ราชการ ซึ่งแน่นอนว่าต้องฝากความหวังไว้กับ กองกำลังในพื้นที่ ผบ.ฉก.จังหวัด และ ผบ.กองกำลังในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะงาน “การข่าว” ที่ต้องรู้ความเคลื่อนไหวของ “แนวร่วม” และ “มวลชน” ของฝ่าย บีอาร์เอ็น จึงจะป้องกันเหตุได้แต่ถ้างาน “การข่าว” ไม่ดีพอ ก็ต้องรอหลังเกิดเหตุแล้วทำการ “ปิดล้อม” และ “ไล่ล่า” ซึ่งสุดท้ายเมื่อมีการ “วิสามัญ” ก็จะ “เข้าทาง” ของ ขบวนการบีอาร์เอ็นเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา….ส่วนพื้นที่ซึ่งต้องระวังเป็นพิเศษ ณ วันนี้เปลี่ยนจาก จ.ปัตตานี ไปยัง จ.นราธิวาส ที่ล่าสุด เจ้าหน้าหน่วยพิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติบูโด อ.ระแงะ ก็ตกเป็นเป้าหมายของการลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง และตามมาด้วยการขว้างระเบิด “ไปป์บอมบ์” ใส่ฐานปฏิบัติการ ร้อย ทพ.4916 บ้านไอร์กรือเน๊าะ ต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ซึ่ง พล.ต.เฉลิมพร เขียวขำ ผบ.ฉก.นราธิวาส คงต้องเหนื่อยหน่อย ในช่วงของการส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ เพราะนี่คือ “โอกาส” ที่ แนวร่วม กลุ่มติดอาวุธที่จะก่อเหตุเพื่อก่อกวน…กรณีการ “วิสามัญ” แนวร่วม ที่ อ.ศรีสาคร ครั้งนี้ นายทหารที่ต้อง ชื่นชม ในการเผชิญหน้ากับ มวลชน และ ชี้แจงด้วยเสียงดังฟังชัด ไม่ก้มหัวให้ “กฎหมู่” คือ พ.อ.อิศรา จันทกระยอม ผบ.ทหารพรานที่ 45…..

@ อีกปัญหาของจังหวัดชายแดนภาคใต้คือการป้องป้อง โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ “โอไมครอน” ที่ระบาดในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีพรมแดนติดกัน จึงต้องมีการป้องกันเป็นพิเศษ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะ ผอ.ศบค.ส่วนหน้า พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 และ พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ในฐานะ รอง ผบ.ศบค. จึงต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อให้การระวังป้องกันได้ผล หากผิดพลาด มีการระบาดของ “โอไมครอน” เข้ามาในพื้นที่ ความหวังของการ “เปิดเมือง” เพื่อการขับเคลื่อน การค้า การขาย การท่องเที่ยว ซึ่ง เกี่ยวพันกับ “ปากท้อง” ของประชาชน ทุกอาชีพ เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนก็จะต้องถูกเลื่อนออกไปอีก นั้นหมายถึงความ “เสดสา” ของคนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่จะเพิ่มพูนขึ้น….ก็หวังว่าการ “เปิดเมือง” ตามกำหนดการเดิมในวันที่ 16 ธ.ค. คงจะไม่มีอันต้องเลื่อนออกไป แม้ว่าจะยังคาดหวังอะไรไม่ได้ว่าจะช่วยกระตุ้น เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ได้มากน้อยแค่ไหน เพราะประชาชน ยังไม่มั่นใจถึงความปลอดภัย แต่ก็ดีกว่าการ “ปิดเมือง” โดยไม่มีกำหนด

โดยเฉพาะ จ.สงขลา แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะลดน้อยลงจนทำให้ เจษฎา จิตรัตน์ ผวจ.สงขลา ถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ไม่ได้หมายความว่าการติดเชื้อจะไม่สูงอีก เพราะกลุ่มก้อนของผู้ที่ตรวจพบการติดเชื้อ ยังมาจาก โรงงาน ต่างๆ ที่ระบาดสู่ครัวเรือน การหยุดผู้ติดเชื้อใน จ.สงขลา จึงต้องมี มาตรการ ให้โรงงานอุตสาหกรรมต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดให้ได้….

@ การยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกขณะ ตามสถานการณ์ของการเมืองที่ไม่มีความแน่นอน ดังนั้นจึงเห็นการเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองต่างๆ ในภาคใต้ ทั้งพรรคพลังประชารัฐ, ภูมิใจไทย และ ประชาธิปัตย์ ที่มีการประชุม มีการคัดเลือก ผู้เป็น “ตัวแทน” ทั้งของ สาขาพรรค และ ผู้สมัครอย่างคึกคัก…ประชาธิปัตย์ถึงคิวการเลือก รองหัวหน้าพรรคภาคใต้แทน นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรค และ ส.ส. 7 สมัยของพรรคประชาธิปัตย์ที่ โบกมือ “ซาโยนาระ” จากพรรคประชาธิปัตย์ไปแล้ว มี 2 ขุนพลของพรรคจากภาคใต้ ตอนบนคือ ชินวรณ์ บุญยเกียรติ ส.ส.จ.นครศรีธรรมราช และ เดชอิศม์ ขาวทอง (นายกชาย) ส.ส. สงขลา เป็นตัวเลือก คนแรกพรรษาทางการเมืองในพรรคมากกว่า ส่วนคนที่สอง เป็น ส.ส.สมัยแรก แต่มี “คอนเนกชั่น” ทั้งในพรรคและนอกพรรคที่ไม่ธรรมดา ซึ่งต้องดูว่าสุดท้ายแล้ว พรรคประชาธิปัตย์จะเลือกใครมาเป็น “ขุนพล” เพื่อสู้ศึก เพราะมีการเลือกตั้งซ่อม ในเขตเลือกตั้งที่ 6 จ.สงขลา รออยู่ข้างหน้า ซึ่งในการเลือกตั้งเขต 6 พลังประชารัฐ พร้อมแล้วทั้งผู้สมัครและ “กระสุน” ในการยิงสู่เป้าหมาย….

@ ส่วนในการเลือกตั้งครั้งหน้าของ จ.สงขลา ต้องจับตาแบบ “ไม่กะพริบ” เพราะเป็นพื้นที่ “ชิงชัย” ของ 3 พรรคใหญ่อย่าง ภูมิใจไทย, พลังประชารัฐ และ ประชาธิปัตย์ ซึ่งในส่วนของ “ภูมิใจไทย” ข่าวว่าได้ ทาบทาม ไพร พัฒโน อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ ลงสมัครในเขตเลือกตั้งที่ 3 ส่วน “พลังประชารัฐ” อนุมัติ อาหมัด อดีต ส.ว.จ.สงขลา ผู้รับผิดชอบการเลือกตั้งในภาคใต้ของ “พลังประชารัฐ” คนใกล้ชิด “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคฯ และรองนายกรัฐมนตรี กำลังทาบทาม ณรงค์พร ณ พัทลุง (ปลัดแป้น) อดีตปลัด จ.สงขลา ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ ซึ่งมีคะแนนเป็นอันดับ 2 เพื่อลงรับเลือกตั้งในเขต 2 ที่มีพื้นที่หลักคือ อ.หาดใหญ่ เป็นฐานสนับสนุน…

@ และที่ จ.นราธิวาส นัจมูดิน อูมา อดีต ส.ส.หลายสมัย ยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรคประชาชาติ ที่มี วันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นหัวหน้าพรรค เหตุผลสั้นๆ เพราะต้องการเป็น ส.ส.ในพื้นที่เลือกตั้งเดิม ที่ จ.นราธิวาส แต่พรรคประชาชาติ มี ส.ส.อยู่แล้ว จึงต้องไปสังกัดพรรคใหม่ เพื่อที่จะลงสมัคร ส.ส.ได้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เป็นการ “ฟาดพัน” กันเอง ระหว่าง เพื่อนฝูง ซึ่งนี่แหละคือ วิถีทางทางการเมือง ที่ “ไม่มีมิตรแท้ และศัตรูถาวร” ….

@ นี่ก็เรื่อง “การเมือง” เป็นการหาผลประโยชน์ของการเมืองท้องถิ่น ที่มีเสียง “นินทา” กันว่า หลาย อบจ. หลายเทศบาล หลังมีการจัดงบประมาณเสร็จ มีการหาผลประโยชน์จากงบประมาณด้วยการตั้ง “กติกา” ในการ “จัดซื้อ จัดจ้าง” ต้องจ่าย “เงินทอน” 23% ต่ำ กว่านี้ไม่ได้ ก็ฝากให้ “ท้องถิ่นจังหวัด” แต่ละแห่งตรวจสอบดูบ้าง อย่ากลัว “อิทธิพล” ของนักการเมือง จนทำให้งบประมาณเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นถูก “ปู้ยี้ปู้ยำ” จาก นักเลือกตั้ง จนเหลือเพียง “เศษเงิน” ในการพัฒนาอย่างที่เป็นอยู่…..นโยบายแก้ปัญหาคนยากจนของ ศอ.บต.ที่เป็น นโยบายเร่งด่วนของ พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต.โดย “นำร่อง” ใน จ.นราธิวาส ขั้นตอนแรกคือการได้ตัวเลขคนจนทั้ง 5 ด้าน มาแล้ว 370 ครัวเรือน  ซึ่งแต่ละครัวเรือนจะมีข้าราชการ บุคลากรของ ศอ.บต. รับผิดชอบแบบ  “1 ข้าราชการ 1 ครัวเรือน” กำลังจะเริ่มขึ้น โครงการนี้มี อิสระ ละอองสกุล ผู้ช่วย ศอ.บต. เป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งถือเป็นงานที่เป็น “หัวใจ” ในการแก้ปัญหาคนจนของ ศอ.บต…..แต่..  ปัญหาการพัฒนาในภาคใต้สำหรับโครงการใหญ่ๆ คือการ “คัดค้าน” จาก “เอ็นจีโอ” ที่เห็นชัดในขณะนี้  หลังจากที่ บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ กำหนดวันที่ 13-23 ธ.ค. เพื่อเปิดเวทีรับฟังความเห็นจาก ประชาชน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในพื้นที่  3 ตำบล ของ อ.จะนะ จ.สงขลา ในโครงการก่อสร้าง ท่าเรือน้ำลึก, ท่าเรือก๊าซธรรมชาติเหลว, โรงไฟฟ้า ทีพีไอสงขลา และ เมืองอุตสาหกรรม สงขลา กลุ่ม เอ็นจีโอ ก็นำกลุ่มผู้ที่ “เห็นต่าง” ที่คัดค้านการมีอุตสาหกรรมในพื้นที่ทุกโครงการ ไม่ถึง 50 คน เดินทางไปปักหลัก หน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อ “กดดัน” ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งให้ “ยกเลิก” ขบวนการรับฟังความคิดเห็น จนสุดท้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจต้อง สลายการชุมนุม หลังจากที่ “เจรจา” ให้ถอยออกจากทำเนียบไม่สำเร็จ…

@ เชื่อเถอะ เรื่องไม่จบเพียงนี้ และการถูกตำรวจสลายการชุมนุม ก็จะกลายเป็น “เงื่อนไข” ให้ เอ็นจีโอ นำกลุ่มผู้ “เห็นต่าง” เคลื่อนไหวต่อ ซึ่งในพื้นที่ อ.จะนะ มีการเตรียมกลุ่มผู้ “เห็นต่าง” ไปยังหน้าศาลากลางจังหวัด เพื่อ “กดดัน” ผู้ว่าราชการจังหวัด ตามที่ เอ็นจีโอ กลุ่มนี้ทำสำเร็จมาแล้วหลายครั้งในการคัดค้านโครงการต่างๆ ใน จ.สงขลา เพื่อไม่ให้เกิด และสุดท้าย เอ็นจีโอ ก็จะให้ผู้ที่ “เห็นต่าง” เข้ายึดสถานที่ ซึ่งถูกจัดไว้ในพื้นที่ เพื่อใช้เป็นเวทีรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อให้ขบวนการรับฟังความคิดเห็น “ล้มเหลว” ก็ไม่ทราบว่า พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จว.สงขลา มีการเตรียม “รับมือ” หรือ แก้ไขสถานการณ์อย่างไร….และสุดท้ายก็ต้องถามกลับไปยัง รัฐบาลที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีอีกครั้งว่า โครงการนี้ ผลักดันโดยรัฐบาล เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจของจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดย “เอกชน” เป็นผู้ลงทุนทั้งหมด  ถ้า รัฐบาล ยัง ขับเคลื่อน ให้เป็น “มรรคเป็นผล” ไม่ได้ เพราะ กลัว เอ็นจีโอ แล้ว รัฐบาลจะพัฒนา เศรษฐกิจ การลงทุน ของประเทศอย่างไร  เพราะการ “แจกเงิน” อย่างเดียว ไม่ใช่การแก้ปัญหา “ปากท้อง” และปัญหา “ว่างงาน” ของคนในจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างแท้จริง….และอีกประเด็น เรื่องการทำเวทีรับฟังความคิดเห็นของ “ผู้มีส่วนได้เสีย” ในครั้งนี้ เป็นเรื่องของ “พีทีไอ โพลีนฯ” บริษัทเอกชนผู้เข้ามาลงทุน เป็นผู้ดำเนินการ เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ เนื่องจาก บริษัท  ทีพีไอฯ มีที่ดินที่เป็นของบริษัทอยู่แล้ว 17,000 กว่าไร่ การจัดเวทีรับฟังความคิดเห็น จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ (ศอ.บต.) แม้แต่นิดเดียว ดังนั้นการที่ เอ็นจีโอ และผู้ที่ “เห็นต่าง” ไป ตะโกนด่าทอ “ศอ.บต.” จึงเป็นการเข้าใจผิด และวันนี้ เรื่อง โครงการ “นิคมอุตสาหกรรมจะนะ” มีคณะทำงานด้านยุทธศาสตร์ฯ เป็นผู้รับผิดชอบ ศอ.บต. ทำหน้าที่เป็น ฝ่ายเลขานุการในการอำนวยความสะดวก ประสานงาน ฯลฯ เป็นด้านหลัก….

@ หน้าเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ แม้ยังอยู่ในช่วงของ โควิด-19 แต่มาตรการผ่อนปรนของ รัฐบาล ก็ทำให้มีการเตรียมเฉลิมฉลอง “ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่” คึกคักแต่หัววัน จึงไม่แปลกที่ เหล้า-บุหรี่ สินค้าหนีภาษีจะ “ทะลักทลาย” เข้ามาจากต่างประเทศ เป็นจำนวนมาก เส้นทางของ เหล้า และ บุหรี่ หลบหนีภาษี ก็เห็นๆ อยู่จากพื้นที่เดิมๆ เก่าๆ เช่น จ.นราธิวาส นำเข้าทางสุไหงโก-ลก และ อ.ตากใบ จ.สตูล ถ้ามาจากเรือก็ อ.เมือง ถ้าทางบก ก็ผ่านด่านวังประจัน อ.ควนโดน ส่วน จ.สงขลา ก็ อ.สะเดา ต.สำนักขาม และ ต.ปาดังเบซาร์ …. ส่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็ ศุลกากร ที่ทำหน้าที่ “นายทวาร” การ เข้า-ออก ระหว่างประเทศ, ส่วนสรรพสามิต นี่คือหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง และมี ตำรวจ ที่ถือกฎหมายทุกฉบับ จับได้ทุกความผิด ถ้า 3 หน่วยงานนี้ ยังมีเรื่อง “อื้อฉาว” ในการรับผลประโยชน์จาก “นายทุน” ผู้นำเข้า ก็ป่วยการที่จะถามถึงมาตรการ “ปกป้อง” ผลประโยชน์ของประเทศชาติ…ส่วน หน่วยงานอื่นๆ เช่น ตชด. ทหาร ซึ่งรับผิดชอบในการลาดตระเวนแนวชายแดนเพื่อรักษาความสงบของประเทศชาติ จับก็ได้ ไม่จับก็ได้ เรียกรับประโยชน์ก็ได้ เพราะไม่ใช่หน้าที่โดยตรง ดังนั้นจึงอย่าแปลกใจ ที่วันนี้ เหล้า บุหรี่ ที่ หลบหนีภาษี จึงมีการจำหน่ายกันเต็มบ้านเต็มเมือง มีทุกตำบลทุกอำเภอ และที่สำคัญเป็นสินค้าที่ผู้สูบผู้ดื่มให้ความนิยมเพราะ ราคาถูกกว่า…

เมื่อเป็นอย่างนี้จึงไม่ต้องแปลกใจที่ คนขาย ต้อง “จ่ายส่วย” ให้กับ หน่วยงานต่างๆ ที่ถือ กฎหมาย ในมือถึง 18 หน่วยงาน ไม่รวม “นักบิน” จาก ส่วนกลาง ที่ “โฉบเฉี่ยว” เพื่อ “หาเหยื่อ” อีกหลายหน่วยงาน เมื่อเป็นเช่นนี้ รัฐบาลจะป้องกันการ “รั่วไหล” ของภาษี เหล้า–บุหรี่ อย่างไร เรื่องนี้ต้องถาม อธิบดีกรมศุลกากร, อธิบดีกรมสรรพสามิต และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ว่าจะ “จัดการ” กับ ข้าราชการในพื้นที่อย่างไร อย่านะ อย่าปฏิเสธว่า ไม่มีใคร “รับส่วย” เพราะ บัญชีส่วยที่ “เสี่ยโจ้” นายสหชัย เจียรเสริมสิน ทำหล่นไว้ ที่บริษัท “สหชัยค้าไม้” อ.เมือง จ.ปัตตานี ยืนยันได้ชัดเจนว่า ใครบ้าง เป็นผู้รับ “ส่วย” จาก การทำของผิดกฎหมาย นี่เป็นตัวอย่างแค่รายเดียว แต่โดยข้อเท็จจริง ขบวนการค้าของเถื่อนในภาคใต้มีเป็นร้อยๆ ราย แล้วเงิน “ส่วย” ที่ต้องจ่าย จะมากขนาดไหน คิดกันเอาเอง….

@ น้ำท่วมในหลายจังหวัดของภาคใต้ มีประชาชนจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบ ที่ จ.ตรัง ขจรศักดิ์  เจริญโสภา ผวจ. และ สมนึก ธูปหอม นายอำเภอย่านตาขาว นำสิ่งของบรรเทาทุกข์ ให้การช่วยเหลือชาวบ้านอย่างทันที่ทันใด เท่านี้แหละที่ประชาชนต้องการ.

————————————————————-

ไชยยงค์ มณีพิลึก 

มหกรรมการเงิน…   นิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย เป็นประธาน เปิดงาน มหกรรมการเงินหาดใหญ่ ครั้งที่ 11 เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบธุรกิจเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยมี สุรีย์พรรณ์ ณ สงขลา รอง ผวจ.สงขลา ร่วมพิธี ณ ศูนย์ประชุมเฉลิมพระเกียรติฯ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 

มอบพันธ์ุกล้าไม้…    พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) มอบพันธ์ุกล้าไม้จำนวน 500,000 ต้น ให้กับกลุ่มเป้าหมายจำนวน 100 คน เป็นการนำร่อง ส่งเสริมการปลูกพืชเศรษฐกิจใหม่ ให้โตเร็ว ณ สถานีเพาะชำกล้าไม้ จ.นราธิวาส เพื่อการพัฒนาอาชีพให้กับเกษตรในพื้นที่ แก้ปัญหาเศรษฐกิจและความยากจน 

นายอำเภอแหวนเพชร…   นพพร หนูเพชร นายอำเภอสะบ้าย้อย จ.สงขลา รับมอบรางวัล แหวนเพชร (รางวัลชมเชย) จาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ตามโครงการนายอำเภอแหวนเพชร ประจำปี 2564 ที่ห้องประชุมกระทรวงมหาดไทย 

หน้าที่ต้องทำ…   บุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ นายก อบจ.ตรัง พร้อมคณะผู้บริหาร, สมาชิก อบจ. และหัวหน้าส่วนราชการ ลงพื้นที่ หมู่ 1 ต.โพรงจระเข้ อ.ยานตาขาว นำถุงยังชีพ มอบให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วม เพื่อเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้น 

ขวัญกำลังใจ…   พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผบก.ภ.จว.ยะลา ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม สภ.ธารโต จ.ยะลา พบ พ.ต.อ.อำไพ  ชุมช่วย ผกก.สภ.ธารโต พร้อมได้กำชับข้อราชการ เพื่อป้องกันเหตุรุนแรงในพื้นที่รับผิดชอบ ทั้งได้ตรวจเยี่ยมชุดเฝ้าตรวจชายแดน 4404 บ้านดินเสมอ เยี่ยมนายเฉลิม ยอดศรี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 บ้านดินเสมอ ต.คีรีเขต อ.ธารโต จ.ยะลา และได้ตรวจเยี่ยมสถานีตำรวจชุมชนคีรีเขต พร้อมมอบสิ่งของบำรุงขวัญแก่กำลังพลอีกด้วย 

โฆษกร่วมแถลง…  อำนวย ศรีระแก้ว ผู้ช่วย เลขาธิการ ศอ.บต. พ.อ.เกียรติศักดิ์ ณีวงศ์ หน.ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และ พ.ต.ท.ภนภัค ภานุเดชากฤษ ผช.โฆษก กองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกันแถลงผลงานประจำเดือน พ.ย. ณ ห้องประชุมดาหลา ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจ สนง.ตร.แห่งชาติส่วนหน้า อ.เมือง จ.ยะลา 

ลุยน้ำช่วยผู้ป่วยติดเตียง…  พ.อ.ก่อเกียรติ เข็มแดง รอง ผบ.ฉก.นราธิวาส และ พ.อ.ทวีรัตน์ เบญจาธิกุล ผบ.ฉก.ทพ.ที่  45 นำกำลังพลเข้าช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยน้ำท่วม และผู้ป่วยติดเตียง ในพื้นที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งประสบกับน้ำท่วมฉับพลัน 

ทุนการศึกษา…   พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 รักมอบสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค และทุนการศึกษา บุตรกำลังพล จาก ทีวีบูรพา โดย ฐานิยา ธรรมวัฒนะ เป็นผู้มอบ ณ ห้องประชุมค่ายสิรินธร เขาตูม จ.ปัตตานี 

สำรวจความเสียหาย…  นิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย พร้อม นริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ และกู้เกียรติ วงศ์กระพันธ์ ผวจ.พัทลุง ติดตามสำรวจความเสียหายจากอุทกภัยในพื้นที่ อ.กงหรา-ศรีนครินทร์ พร้อมมอบถุงยังชีพ และสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วน 

กำจัดขยะ…   นิอันนุวา สุไลมาน นายเทศมนตรีเทศบาลเมืองปัตตานี นำเยาวชน ประชาชน ล่องเรือเก็บขยะ ริมแม่น้ำปัตตานี ตามโครงการ “รักษ์เมือง รักษ์แม่น้ำปัตตานี” เพื่อเก็บขยะที่ตกค้างในแม่น้ำ เป็นการสร้างจิตสำนึกให้กับเยาวชนและประชาชนให้เห็นถึงความสำคัญในการกำจัดขยะมูลฝอย 

ช่วยสังคม…   อะหมัด รามันห์สิริวงศ์ กรรมการสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย (สนต.)/ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ประจำจังหวัดยะลา นำขนมปังปี๊บ-กาแฟ เข้ามอบให้กับ ชุดกู้ชีพ-กู้ภัยแม่กอเหนี่ยว (ฉื่อเซี่ยงตึ้ง) ยะลา เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้น จ.ยะลา ต่อไป 

ช่วยผู้ประสบอุทกภัย…   พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า คุณคนึงนิตย์ ศรีรักษ์ ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 4 และคณะ ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ที่ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ณ วัดพระบรมธาตุไชยาวรวิหาร เพื่อมอบถุงยังชีพให้ประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อน โดยมี วิชวิทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี ให้การต้อนรับ 

ช่วยเหลือเยียวยา…   พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูรเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมเจ้าหน้าที่ เป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพ อนันต์ คงมณี ซึ่งเสียชีวิตจากการโจมตีของ แนวร่วม ขบวนการแบ่งแยกดินแดน ณ วัดเวฬุวัน( ป่าไผ่) ต.กาหลง อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส โดยมี บุญพาส รักนุ้ย รอง ผวจ.นราธิวาส ร่วมในพิธี พร้อมมอบเงินเยียวยา ให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต 

ปัญหากัดเซาะ…   ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี ส.ส.เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ จ.สงขลา ลงพื้นที่ตรวจความเสียหายจากการที่คลื่นกัดเซาะชายฝั่งทะเลอ่าวไทย จาก ต.ม่วงงาม อ.สิงหนคร-ต.ท่าบอน อ.ระโนด จ.สงขลา เพื่อสำรวจความเสียหายความเดือดร้อนของประชาชน และจะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขต่อไป 

ช่วยเหลือ…   อามีร ซาริคาน รองนายกเทศบาล ต.รือเสาะ จ.นราธิวาส นำข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม และสิ่งของอื่นๆ ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ หมู่ 2 ต.บาตง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากอุทกภัย 

เยี่ยมชาวจะนะ…   พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ เยี่ยมชาว อ.จะนะ จ.สงขลา ที่ไปประท้วงให้รัฐบาลหยุดการขับเคลื่อน “เมืองต้นแบบที่ 4 อ.จะนะ” ที่ทำเนียบรัฐบาล และถูกเจ้าหน้าที่สลายการชุมนุม นำไปควบคุมตัวที่สโมสรตำรวจ แสดงความห่วงใยและให้กำลังใจพร้อมให้ความช่วยเหลือ