ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ รอง ผวจ.พระนครศรีอยุธยา ประธานการแถลงข่าว การจัดงาน “ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก” ประจำปี 2564 โดยมี นพ.ยุทธนา วรรณโพธิ์กลาง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา Mr.Fabian Mosquera Asian Country Managing Director นายมานัส ทรัพย์มีชัย ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าร่วม ที่บริเวณวัดพระราม อ.พระนครศรีอยุธยา

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า จ.พระนครศรีอยุธยา ได้จัดงาน “ยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก” ขึ้นตั้งแต่ปี 2534 เพื่อเฉลิมฉลองที่ UNESCO ได้ประกาศขึ้นทะเบียนอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2534 จนถึงปีนี้ เป็นปีที่ 30 สำหรับความพิเศษของงานปีนี้ ได้เน้นการเฉลิมฉลองครบ 3 ทศวรรษ แห่งการเป็นเมืองมรดกโลก โดยกำหนดจัดงานดังกล่าว ระหว่างวันที่ 17-26 ธ.ค.64 ณ บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เพื่อเป็นการตอกย้ำให้โลกรู้ว่าอยุธยามีดี ตลอดจนเพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) เป็นการสืบสานมรดกทางวัฒนธรรม ประเพณีไทย พร้อมจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมขอเชิญชวนแต่งกายผ้าไทยร่วมประกาศกึกก้องความเป็นเมืองมรดกโลก ภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมโรคไวรัสโควิด-19

นายสมศักดิ์ ยังกล่าวต่ออีกว่า ทาง จ.พระนครศรีอยุธยา กำหนดการจัดพิธีบวงสรวงสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง และรำบวงสรวงถวายพระเจ้าอู่ทองในวันที่ 13 ธ.ค. และจะมีพิธีเปิดอย่างยิ่งใหญ่อลังการในที่ 17 ธ.ค. เวลา 15.00 น. เริ่มด้วยขบวนแห่สุดอลังการรวม 8 ขบวน 8 ยุคสมัย ได้แก่ ยุคสมัยพระเจ้าอู่ทอง สมัยเจ้าสามพระยา สมัยพระบรมไตรโลกนาถ สมัยพระนเรศวรมหาราช สมัยพระเจ้าทรงธรรม สมัยพระนารายณ์ สมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ และสมัยพระเจ้าตากสินมหาราช โดยจัดรูปขบวนเริ่มต้นจากบริเวณสี่แยกคลองมะขามเรียง มุ่งหน้าสู่ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (หลังเก่า) และจะมีพิธีเปิดงาน “ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก” ประจำปี 2564 ในเวลา 18.00 น. ณ เวทีกลาง บริเวณด้านหน้าบึงพระราม พิธีเปิดการแสดง แสง-เสียง ณ ลานการแสดง แสง-เสียง บริเวณด้านหลังวัดมหาธาตุ

นอกจากนี้ ยังจัดกิจกรรมพิเศษ “นิทรรศการแห่งแสง” ซึ่งปีนี้เป็นปีแรก พร้อมรับชมกิจกรรมไฮไลต์ อาทิ การแสดงแสง-เสียง การแสดงจากลิเกร้อยล้าน “ศรราม น้ำเพชร” การแสดง “โขน” จากสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ เรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ลักษมีสีดา และการแสดง “หุ่นละครเล็ก โจหลุยส์” เป็นต้น ในกิจกรรมลานวัฒนธรรม และยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอื่นๆ อีกมายมาย ในส่วนกิจกรรมเวทีกลาง ตั้งแต่คืนวันที่ 17-26 ธ.ค. เวลา 18.00 น. พบกับกิจกรรมการประกวด The Best To Be Number One การประกวด “Miss Ayutthaya” การประกวด “หนูน้อยกรุงเก่า” การประกวดร้องเพลง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำ อปท. การประกวดร้อง เล่น เต้น โชว์ Ayutthaya Talent การประกวดวงดนตรี Ayutthaya Music Challenge การประกวดร้องเพลงไทยลูกทุ่งเยาวชนคนเก่ง และในวันสุดท้าย จะทำการหมุนวงล้อจับรางวัลสลากกาชาด เวลา 21.00 น. โดยมีรถรางให้บริการนักท่องเที่ยวภายในงาน จุดถ่ายภาพ รวมทั้งการจัดแสดงและบริการให้เช่าชุดไทย ทุกวันตลอดการจัดงาน

นพ.ยุทธนา กล่าวว่า แม้ว่า ศบค.จะผ่อนปรนมาตรการ โดยกำหนดพื้นที่สถานการณ์ของ จ.พระนครศรีอยุธยา เฉพาะ อ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพื้นที่สีฟ้านำร่องท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. ที่ผ่านมาแล้วก็ตาม คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ตระหนักถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและผู้ร่วมงาน จึงได้กำหนดมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด ให้ผู้เข้าร่วมงานต้องได้รับการฉีดวัคซีนโควิดครบโด๊ส (2 เข็ม) และพกบัตรประชาชน เพื่อใช้ตรวจสอบประวัติการฉีดวัคซีนโควิด ตรวจคัดกรองก่อนเข้างานตามมาตรการ COVID Free Setting เพื่ออำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัย พร้อมขอเชิญชวน “ท่องเที่ยวอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย วิถีใหม่ New Normal”