เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หลายคนจึงอยู่ในช่วง Work from Home เริ่มมีเวลาอยู่บ้านกันมากขึ้นหลายท่านจึงต้องหากิจกรรมอย่างอื่นทำเป็นงานอดิเรก เช่นการปลูกต้นไม้ โดยเฉพาะการปลูก “ไม้ด่าง” ซึ่งเป็นไม้ที่มีความสวยงามมากเป็นพิเศษ แถมยังสามารถขยายพันธุ์ขายสร้างรายได้ค่อนข้างดีจากการที่ต้นไม้ขายดีส่งผลทำให้ราคาต้นไม้ด่างเกือบทุกชนิดราคาพุ่งขึ้นสูงเป็นอย่างมาก ซึ่งปีนี้ต้องยอมรับว่ากระแส “ไม้ด่าง” มาแรงมากจริงๆ มีการซื้อขายอย่างคึกคักทั้งร้านขายต้นไม้ หรือ ขายผ่านช่องทางออนไลน์ สร้างอาชีพสร้างรายได้แก่ผู้ที่ปลูกเลี้ยงต้นไม้เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นไม้กลุ่มฟิโลเดนดรอนด่าง, กลุ่มกล้วยด่าง, กลุ่มซิงโกเนียม, กลุ่มอโลคาเซีย, กลุ่มโคโลคาเซีย เป็นต้น

วันนี้ เลยมาแนะนำไม้ด่างกลุ่มอโลคาเซียที่กำลังเป็นไม้กระแสยอดนิยมมีซื้อขายกันหลักหมื่นบาทถึงหลักล้านบาทมาแล้วในช่วงที่ผ่านมาถือได้ว่าเป็นไม้ด่างที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงนี้คือ “บอนหูช้างด่างเหลือง” (Alocasiagageanaaureavariegated) ซึ่งเป็นบอนที่มีลายด่างที่สวยงามมากชนิดหนึ่ง เมื่อต้นปีราคาซื้อขายยังอยู่ในช่วงหลักพันบาท จนเกินกระแสคนหามาปลูกเลี้ยงกันมากขึ้น จนราคาบอนหูช้างด่างเหลืองนั้นราคาซื้อขายในตลาดขยับขึ้นสูงอย่างรวดเร็วตามความต้องการของตลาดผู้ที่ชื่นชอบ

โดยราคาเริ่มต้นในตอนนี้ ต้นที่มีขนาดเล็กความสูงเพียง 15-25 ซม. ซื้อขายกันหลักหมื่นบาทเลยทีเดียว หรือต้นไหนที่ลายด่างสวยขนาดต้นใหญ่มากขึ้น ราคาก็ขยับขึ้นไปหลายหมื่นบาทจนแตะหลักแสนบาท ที่ผ่านมาก็สามารถขายกันได้หลักล้านบาทกันมาแล้ว ดังที่หลายท่านได้เห็นในสื่อข่าวออนไลน์

“บอนหูช้างด่างเหลือง” นั้น เป็นอโลคาเซียที่ชอบดินหรือวัสดุปลูกที่ร่วนซุย ชอบความชุ่มชื้น ดังนั้นไม่ควรปล่อยให้วัสดุปลูกแห้ง ควรรดน้ำให้วันละ 1-2 ครั้ง ไม่ควรปลูกในที่ที่มีน้ำขังเพราะรากจะเน่าได้ง่าย บอนหูช้างด่างเหลืองชอบแสงแดดรำไร ชอบแสงแดดประมาณ 60-80 เปอร์เซ็นต์ มีการให้ปุ๋ยละลายช้า เช่น ออสโมโค้ท หรือ ปุ๋ยคอกเก่า หรือ ปุ๋ยมูลไส้เดือน เพื่อช่วยให้ต้นมีความแข็งแรง เจริญเติบโตได้ดี

สวนคุณลี อ.เมือง จ.พิจิตร ได้แนะนำสูตรวัสดุปลูก “บอนหูช้างด่างเหลือง” โดยมีหลายสูตร ตามแต่ละท่านสะดวกเลือกใช้ ซึ่งเน้นที่ความโปร่งระบายน้ำดี เช่น ใช้ดินใบก้ามปูหมักล้วนๆผสมปุ๋ยคอกเก่าเล็กน้อย หรือใช้ดินใบก้ามปูผสมกับกาบมะพร้าวสับหรือเพอร์ไลท์ หรือ จะเป็นสูตรดินที่มีความซับซ้อนละเอียดมากกว่านี้ เช่น สูตรที่มี (เวอร์มิคูไลท์½ ส่วน,หินภูเขาไฟ ½ ส่วน (เบอร์ 2), เพอร์ไลท์ ½ ส่วน,ดินญี่ปุ่น ½ ส่วน, ดินใบก้ามปู 1 ส่วน, กาบมะพร้าว 1 ส่วน (แช่น้ำ 3 วันแนะนำให้แช่กาบมะพร้าว 3 วัน เปลี่ยนน้ำทุกวัน เพื่อล้างสารแทนนินออกให้มากที่สุดครับ), ปุ๋ยออสโมโค้ท 1 ช้อนชา จากนั้นรองกระถางด้วยหินภูเขาไฟเบอร์ 3 แล้วโรยด้วยเบอร์ 2 (กันวัสดุปลูกหนีเราออกจากกระถาง) หรือจะใช้กาบมะพร้าวก้อได้ครับ เพื่อป้องกันน้องเล่นน้ำมากไปครับ จากนั้นใส่วัสดุปลูกที่ผสมๆไว้ลงไปประมาณ ½ กระถาง โรยด้วยปุ๋ยออสโมโค้ทเล็กน้อย แล้วตามด้วยวัสดุปลูกที่เหลือจนเต็มกระถาง เป็นต้น