นายพชรพจน์ นันทรามาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ศูนย์วิจัยกรุงไทย คอมพาส ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า การเยียวยาที่ภาครัฐออกมาให้กับกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการยกระดับทั้งล็อกดาวน์และกึ่งล็อกดาวน์ ถือว่าเป็นผลดี ถูกต้องที่ต้องรีบเยียวยา เป็นมาตรการเร่งด่วน แต่ไม่มีผลมากกับภาพรวมเศรษฐกิจ ซึ่งสถานการณ์ผู้ติดเชื้อรายวันรุนแรงมากขึ้น กระทบกับเศรษฐกิจในภาพรวมอาจให้จีดีพีปีนี้มีเพียง 0.5-1.3% ลดต่ำจากเดิมที่คาดไว้ช่วงเดือน พ.ค.ที่ 0.8-1.6% หรือลดลง 0.3% ทำให้เห็นว่ากระทบรุนแรงและคาดจะคลี่คลายได้ในเดือน ก.ย.ก่อนกิจกรรมเศรษฐกิจจะฟื้นเดือน ต.ค.เป็นต้นไป

ทั้งนี้ยอดโควิดรายวันเพิ่มขึ้นกระทบกับการจับจ่ายใช้สอยและการเดินทางในประเทศ รวมทั้งการเข้าพักโรงแรมยังอยู่ต่ำมาก ภาคการท่องเที่ยวก็ฟื้นไม่ได้ ทำให้หากสถานการณ์คลี่คลายภาครัฐจำเป็นต้องใส่เงินเพิ่มเติมมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายในลักษณะโครงการคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน โดยเฉพาะคนละครึ่งควรเพิ่มวงเงินจาก 3,000 บาทต่อคนเป็น 6,000 บาทต่อคน เพื่อสนับสนุนให้คนใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างบรรยากาศจับจ่ายใช้สอยในประเทศให้กลับมาในไตรมาส 4 ขณะที่ปี 65 คาดจีดีพีขยายตัว 3.6% แต่อาจต้องดูสถานการณ์อีกครั้งว่าเป็นอย่างไร โควิดยืดเยื้อรุนแรงจะจบในปีนี้หรือไม่