สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ว่านายแอนโทนี บลิงเคน รมว.การต่างประเทศสหรัฐ และนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.การต่างประเทศรัสเซีย พบหารือกันที่กรุงสตอกโฮล์ม เมื่อวันพฤหัสบดีที่่ผ่านมา นอกรอบการประชุมนอกรอบ องค์การความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (โอเอสซีอี)


ทั้งนี้ บลิงเคนกล่าวว่า สหรัฐและพันธมิตรยังคงมีความวิตกกังวลอย่างยิ่ง ต่อ “หลักฐานเชิงประจักษ์” ว่ารัสเซียมีแผนการ “เคลื่อนไหวด้วยความก้าวร้าวอย่างมีนัยสำคัญ” ต่อยูเครน หนึ่งในนั้นคือ “การทำลายเสถียรภาพของยูเครนจากภายใน ด้วยปฏิบัติการทางทหารขนาดใหญ่” และเรียกร้องให้รัสเซียถอนทหารและสรรพาวุธทั้งหมดออกจากชายแดนทางตะวันตก ซึ่งติดกับภาคตะวันออกของยูเครน เพื่อบรรเทาบรรยากาศตึงเครียด

นายแอนโทนี บลิงเคน (คนซ้าย) และนายเซอร์เก ลาฟรอฟ จับมือทักทายกัน


ขณะที่ลาฟรอฟกล่าวว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน มีจุดยืนชัดเจนมาตั้งแต่ต้น ว่าไม่ต้องการความขัดแย้งทางทหารในบริเวณนี้ และรัสเซียพร้อมพบหารือกับรัฐบาลเคียฟ อย่างไรก็ตาม การที่บุคคลบางกลุ่มอาศัยประเทศเพื่อนบ้านของรัสเซีย “เพื่อเป็นสะพาน” ใช้โจมตีรัฐบาลมอสโก ดังเช่นที่องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) กำลังดำเนินการอยู่ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความมั่นคงของรัสเซีย ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่รัฐบาลมอสโกไม่อาจยอมรับได้ และขอเตือนตะวันตก “อย่าเล่นกับไฟ”


นอกจากนี้ นักการทูตหมายเลขหนึ่งของรัสเซียตั้งเงื่อนไข “ที่เข้าประเด็น” ว่ารัฐบาลมอสโกต้องการ “หลักประกันอย่างเป็นทางการ” จากนาโต ในการไม่รับยูเครนเข้าเป็นสมาชิก และการไม่ประจำการระบบขีปนาวุธในยูเครน หากนาโตไม่อาจปฏิบัติตามได้ แน่นอนรัสเซียจะเดินหน้านโยบายที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อปกป้องเสถียรภาพและความมั่นคงของประเทศ


ด้านสำนักงานเลขาธิการนาโต และสหรัฐซึ่งเป็นหัวเรือใหญ่ของสหภาพทางทหารแห่งนี้ ตลอดจนกระทรวงการต่างประเทศของยูเครน ยังไม่มีความเห็นเพิ่มเติม.

เครดิตภาพ : AP