นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรลลิงก์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งปฏิบัติการดำเนินการแก้ไขปัญหา หลังจากเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์ฝนตกหนัก และเกิดเหตุฟ้าผ่าลงบนระบบส่งไฟฟ้า ทำให้สายส่งไฟฟ้า (Massenger Wire) ขาดระหว่างช่วงสถานีหัวหมาก จนถึงสถานีบ้านทับช้าง เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เวลาแก้ไขประมาณ 3 วัน เพื่อให้รถไฟฟ้าสามารถกลับมาให้บริการได้ตามปกติ ซึ่งการเกิดเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวนี้ ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เปิดให้บริการมา

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ยอมรับว่าการแก้ไขอาจจะค่อนข้างล่าช้า เนื่องจากต้องรอให้ฝ่ายช่างต่อสายไฟให้แล้วเสร็จก่อน จากนั้นต้องปรับแผนรองรับไฟ และตัวสายส่งให้อยู่ในระดับมาตรฐานมีความปลอดภัยก่อนที่จะเปิดให้บริการตามปกติ อย่างไรก็ตามในระหว่างนี้ที่ยังแก้ไขไม่แล้วเสร็จนั้น ทางศูนย์ควบคุมได้ใช้แผนเดินรถสำรองเป็นการชั่วคราว ซึ่งผู้โดยสารยังสามารถเดินทางได้ทุกสถานี แต่ในช่วงสถานีบ้านทับช้างถึงสถานีลาดกระบัง จะให้บริการโดยใช้ชานชาลาฝั่งมุ่งหน้าสถานีสุวรรณภูมิเพียงฝั่งเดียวในการรับส่งผู้โดยสาร เพราะยังจำเป็นต้องเดินรถทางเดียวอยู่จนกระทั่งปิดให้บริการในเวลา 21.00 น.

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ทางบริษัทฯ ต้องขออภัยผู้โดยสารทุกคน ซึ่งกำลังเร่งแก้ไขเพื่อให้ทุกคนได้รับความสะดวก และความปลอดภัย โดยขณะนี้ได้เพิ่มความถี่ในการเดินรถทุก 15 นาที เพื่อลดความแออัดทั้งภายในสถานี และตัวรถ นอกจากนี้จะมีรถเสริมในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนเช้า-เย็น 2 ขบวน อย่างไรก็ตามขอให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาในการเดินทาง หรือสามารถเปลี่ยนเส้นทางในการเดินทางในระบบขนส่งอื่นจนกว่าสถานการณ์จะกลับมาให้บริการได้ตามปกติ ปัจจุบันรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรลลิงก์ มีผู้ใช้บริการเฉลี่ยวันละ 2 หมื่นคน ขณะที่ช่วงก่อนเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ผู้โดยสารเฉลี่ยอยู่ที่วันละ 8 หมื่นคน.