เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ดร.สัมนาการณ์ บุญเรือง ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) สุรินทร์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาสังคมตั้งคำถามกันมากว่าเด็กไทยจบการศึกษาอะไรถึงจะมีงานทำ ซึ่งตนมองว่าเรื่องเทคโนโลยีจะเป็นโจทย์ที่สำคัญในการสร้างอาชีพและรายได้ให้กับเด็กไทยได้ โดยเทคโนโลยีที่สำคัญที่มีมูลค่าเพิ่มในอนาคตก็คือ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เพราะจะทำให้โลกดำเนินอยู่ได้อย่างยาวนานและยั่งยืน และจะเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้เด็กไทยก้าวทันโลกอย่างแท้จริง ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องปลูกฝังทักษะที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี AI ให้กับเด็กไทยตั้งแต่ระดับประถมศึกษา สอดคล้องและต่อเนื่องไประดับมัธยมศึกษา อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา โดยในส่วนของจังหวัดสุรินทร์นั้น ตนได้ผลักดันให้สถานศึกษาในพื้นที่ให้ความสำคัญในเรื่องนี้แล้ว  

“เทคโนโลยี AI  ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ทั่วโลกให้การส่งเสริมอย่างจริงจัง ดังนั้นผมจึงเห็นว่าประเทศไทยควรให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เพราะไม่เช่นนั้นเราจะก้าวไม่ทันโลก ทั้งนี้เราต้องปลูกฝังทักษะและองค์ความรู้ให้กับเด็กไทยตั้งแต่ระดับประถมศึกษา โดยในส่วนของจังหวัดสุรินทร์ ผมได้เริ่มผลักดันแล้ว แต่ก็อยากเห็นการผลักดันเรื่องนี้ให้เกิดขึ้นในทุกจังหวัด ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) อาจจะต้องเข้ามาเป็นแม่งาน หรือมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริม สนับสนุน และผลักดันให้มีการตั้งศูนย์ AI Thailand ขึ้น โดยศูนย์ดังกล่าวจะเป็นศูนย์กลางในการจัดหา จำหน่าย และเป็นศูนย์ซ่อมบำรุงหุ่นยนต์ ที่สำคัญเป็นศูนย์กลางในการถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้ให้กับครู อาจารย์ และนักเรียน นักศึกษา ซึ่งในอนาคตเมื่อมียอดสั่งซื้อหุ่นยนต์ AI ชนิดใดเข้ามาทางศูนย์ฯ ก็สามารถจ้างให้นักศึกษาอาชีวศึกษา หรือนักศึกษามหาวิทยาลัยผลิตป้อนสู่ตลาดได้ สร้างทั้งองค์ความรู้ และรายได้ให้กับเด็กไทยได้ไปพร้อม ๆ กัน โดยเบื้องต้นขณะนี้ผมได้วิจัยให้นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคสุรินทร์ จัดทำหุ่นยนต์ครู EDU แล้ว ซึ่งสามารถจุดประกาย และสร้างแรงบันดาลใจให้กับกลุ่มนักเรียนได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญทำให้เราเห็นว่าเด็กไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกจริง ๆ” ศธจ.สุรินทร์ กล่าว.