เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่กลุ่มปฏิวัติการศึกษาไทย ได้ยื่น 3 ข้อเสนอได้แก่ 1.ศธ.ต้องจัดหาวัคซีนที่มีคุณภาพที่สุดมาฉีดให้แก่ครูบุคลากรทางการศึกษาและนักเรียนทุกคน 2.รัฐบาลต้องมีมาตรการเยียวยาผู้ปกครองและนักเรียนที่ได้รับผลกระทบ เช่น มาตรการคำสั่งให้โรงเรียนรัฐและเอกชนลดค่าเทอม เป็นต้น และ 3.ศธ.ต้องเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนออนไลน์นั้น ในส่วนของการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ ศธ.ได้ปรับรูปแบบการบริหารจัดการแล้ว โดยเมื่อเร็วๆ นี้ รมว.ศธ.ได้มอบนโยบายให้โรงเรียนทุกแห่งลดการบ้านหรือภาระงานที่ไม่จำเป็นลง ซึ่งขณะนี้โรงเรียนหลายแห่งได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดแล้ว รวมถึงมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ปรับตัวชี้วัดและประเมินผลของนักเรียนใหม่ โดยให้สอดรับกับการเรียนการสอนในสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งโรงเรียนจะต้องปรับตัวชี้วัดที่ต้องเน้นสมรรถนะจำเป็นที่เด็กควรรู้

ปลัด ศธ.กล่าวต่อไปว่า สำหรับการลดค่าธรรมเนียมการศึกษาและค่าเทอมนั้น ขณะนี้คณรัฐมนตรี (ครม.) ได้ออกเป็นมาตรการเยียวประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 แล้ว ซึ่งในมาตรการนี้มีมาตรการด้านการศึกษาร่วมอยู่ด้วย โดยมอบหมายให้ ศธ.ไปหารือกับหน่วยงานต้นสังกัดที่เกี่ยวข้องว่าจะมีแนวทางใดที่จะลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ปกครองได้บ้าง ซึ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ ตนได้ประชุมร่วมสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (สช.) และผู้แทนโรงเรียนเอกชนแต่ละแห่ง โดยภาพรวมยังมีข้อคิดเห็นในเรื่องนี้อย่างหลากหลาย แต่ก็ได้มอบแนวทางไปว่าจะต้องหาวิธีการที่ดีที่สุดที่จะทำอย่างไรให้บรรเทาค่าใช้จ่ายของผู้กครองได้มากที่สุด ซึ่งในวันที่ 15 ก.ค.จะมีการประชุมสรุปข้อมูลร่วมกับ รมว.ศธ.อย่างเป็นทางการทั้งหมดว่าจะมีแนวทางออกมาอย่างไรบ้าง ทั้งนี้การช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายผู้ปครองเรื่องค่าธรรมเนียมการศึกษาและค่าเทอมนั้นจะรวมไปถึงผู้ปกครองที่มีบุตรหลานเรียนอยู่ในเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ด้วย