สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงพริทอเรีย ประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติแอฟริกาใต้ออกแถลงการณ์ เกี่ยวกับความคืบหน้าของการควบคุมสถานการณ์ประท้วงทั่วประเทศ ซึ่งเกิดขึ้นแทบจะทันที หลังอดีตประธานาธิบดีจาค็อบ ซูมา มอบตัวต่อพนักงานสอบสวน ที่เมืองเอ็นกันด์ลา ซึ่งเป็นเมืองขนาดเล็ก ตั้งอยู่ทางตะวันออกของประเทศ และเป็นบ้านเกิดของซูมา เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อรับโทษจำคุกเป็นเวลา 15 เดือน ฐานไม่ให้ความร่วมมือและปฏิเสธอำนาจศาล 
อนึ่ง ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ให้ซูมาส่งมอบหลักฐานเพื่อต่อสู้คดีคอร์รัปชั่น ที่อัยการกล่าวหาว่า เกิดขึ้นตลอดระยะเวลา 9 ปี ที่ซูมาอยู่ในอำนาจ จนกระทั่งหมดวาระ เมื่อปี 2561 แต่อดีตประธานาธิบดีปฏิเสธปฏิบัติตามภายในระยะเวลาที่กำหนด
ทั้งนี้ การประท้วงซึ่งบานปลายเป็นการจลาจลในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะตามเมืองใหญ่ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 72 ราย และมีผู้ถูกจับกุมอีกอย่างน้อย 1,234 คนทั่วประเทศ ขณะที่กองทัพแอฟริกาใต้กระจายกำลังทหารลงพื้นที่ตามเมืองใหญ่หลายแห่ง เพื่อสนับสนุนภารกิจด้านความมั่นคงของตำรวจ ในการป้องปรามการปล้นสะดมตามสถานประกอบการหลายแห่ง ซึ่งเกิดบ่อยครั้งมากขึ้น และน่าจะมีแรงขับเคลื่อนจากวิกฤติเศรษฐกิจ ที่เป็นผลจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ร่วมด้วย
ด้านประธานาธิบดีไซริล รามาโฟซา ผู้นำแอฟริกาใต้ ยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการต่อสถานการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้น และยังแทบควบคุมไม่ได้ อย่างไรก็ตาม มูลนิธิซูมาของอดีตผู้นำแอฟริกาใต้ซึ่งกำลังเป็นศูนย์กลางของความรุนแรงครั้งนี้ ออกแถลงการณ์มีเนื้อหาเป็นนัยว่า แอฟริกาใต้จะไม่มีทางสงบ ตราบใดที่ซูมายังไม่ได้ออกจากเรือนจำ.

เครดิตภาพ : AP