นายชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค เปิดเผยว่า ดีแทคมีนโนบายในการสนับสนุนความเท่าเทียมทางดิจิทัล ผ่าน 3 ภารกิจ คือ 1. สัญญาณเน็ตเพื่อทุกคน 2. การเข้าถึงบริการอย่างเท่าเทียม และ 3. การเพิ่มทักษะดิจิทัล เพื่อร่วมฟื้นเศรษฐกิจพลิกชีวิตชุมชน มุ่งสร้างทักษะดิจิทัล ในเยาวชน ผู้สูงอายุ และผู้มีรายได้น้อย เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่เท่าเทียมและยั่งยืน พร้อมรับกับความท้าทายใหม่ๆ ในอนาคต

โดยในส่วนภาคการศึกษาได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างรุนแรง มูลนิธิคีนันแห่งเอเซียระบุว่า มีนักเรียนไทยกว่า 15 ล้านคนในทุกระดับชั้นต้องหยุดเรียน เพราะโรงเรียนและสถานศึกษาถูกสั่งปิด ตลอดช่วงปี 2563-2564 ที่ผ่านมา และข้อมูลสถิติแห่งชาติปี 62 ยังมีเด็กมากถึง 14.7% หรือกว่า 2.4 ล้านคน ที่ยังเข้าไม่ถึงอินเทอร์เน็ต สำหรับเด็กที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้นั้น กว่า 94% เข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านทางมือถือเป็นหลัก ในขณะที่เข้าผ่านคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ และแล็ปท็อปเพียงแค่ 55% และ 16% ทางดีแทคได้สนับสนุน 2,000 ซิม พร้อมแพ็กเกจเน็ตอันลิมิเต็ดความเร็ว 4 เมกะบิต แก่กลุ่มเด็กนักเรียนยากจนพิเศษ ของ กสศ. นำร่องในเขตกรุงเทพฯ สำหรับการเรียนออนไลน์

นายชารัด กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังได้ลดความเหลื่อมล้ำดิจิทัลในกลุ่มผู้สูงวัยด้วยการติดอาวุธดิจิทัลให้ผู้สูงวัย ผ่านโครงการ “ดีแทคเน็ตทำกิน” ในภารกิจปั้นผู้ประกอบการวัยเก๋า 50+ เพื่อมุ่งเน้นแก้ไขปัญหาผู้สูงวัย ในการสร้างเสริมทักษะและความรู้ ในการค้าขายออนไลน์ การแสวงหาโอกาสในการทำธุรกิจดิจิทัล รวมทั้ง การให้ความรู้เพื่อรับมือกับภัยเสี่ยงบนโลกออนไลน์ ให้ผู้สูงวัยด้วย และให้ความช่วยเหลือผู้สูงวัยมากกว่า 8,000 ราย จากทีมดีแทคคอลเซ็นเตอร์ให้เข้าถึงบริการทางการแพทย์ ผ่านแอพพลิเคชั่นของโรงพยาบาลรัฐบาล

ขณะที่ผู้ประกอบการรายเล็ก รวมถึงกลุ่มคนเปราะบาง ได้แก่ ผู้พิการ ชนกลุ่มน้อย เป็นต้น การเข้าถึงและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล คือ หัวใจสำคัญของการปรับตัว จึงได้เร่งนำโครงการดีแทคเน็ตทำกิน สอนผู้ประกอบการตัวเล็ก ให้เข้าถึงช่องทางขายออนไลน์เป็นครั้งแรก ซึ่งช่วยสร้างรายเพิ่มได้ให้มากกว่า 50% เพื่อให้ผ่านพ้นสถานการณ์โควิด-19 ไปด้วยกัน