สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวิลนีอุส ประเทศลิทัวเนีย เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ว่า นายกาบรีลิอุส ลันด์สเบอร์กิส รมว.การต่างประเทศของลิทัวเนีย กล่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เกี่ยวกับการถูกจีนลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูต จากกรณีการเปิด “สำนักงานผู้แทนไต้หวัน” ของรัฐบาลไทเป เมื่อช่วงกลางเดือนนี้ว่า การตัดความสัมพันธ์และการลดระดับความสัมพันธ์ เป็นเรื่องที่เจ็บปวดสำหรับทั้งสองฝ่าย “แต่จะเป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้น” เพราะทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องปรับตัว
ในส่วนของความสัมพันธ์ทางการทูตนั้น จีนเรียกตัวเอกอัครราชทูตประจำกรุงวิลนีอุสให้เดินทางกลับตั้งแต่เดือน ส.ค.ที่ผ่านมา และตอนนี้ให้เหลือเพียงอุปทูตรักษาการ พร้อมทั้งขับเอกอัครราชทูตลิทัวเนียประจำกรุงปักกิ่ง ในด้านการค้า ลันด์สเบอร์กิส กล่าวว่า จีนไม่เพียงให้บริษัทในประเทศยุติความร่วมมือกับบริษัทของลิทัวเนียเท่านั้น แต่ยัง “โน้มน้าวประเทศที่สามอีกหลายแห่ง” ให้ระงับความร่วมมือทางการค้ากับลิทัวเนียด้วย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่การทูตหมายเลขหนึ่งของลิทัวเนียยืนยันว่า ประเทศขนาดเล็กแห่งนี้จะเป็นแบบอย่างให้กับประเทศอื่น ในการรับมือและฝ่าฟันกับแรงกดดัน แต่ในเวลาเดียวกัน ยุโรปควรเพิ่มความสัมพันธ์และความร่วมมือกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก เพื่อความมั่นคงและความปลอดภัยทางเศรษฐกิจ
ด้านกระทรวงการต่างประเทศในกรุงปักกิ่งยังไม่มีความเห็นเพิ่มเติมต่อท่าทีของลิทัวเนีย โดยกล่าวเพียงว่า จีนคาดหวังให้ลิทัวเนีย “แก้ไขความผิดพลาดครั้งนี้โดยเร็วที่สุด เพื่อผลประโยชน์ของลิทัวเนียเอง”.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES