เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธาน ยังคงเป็นรูปแบบการประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์  ซึ่งนายกฯ วิดีโอคอนเฟอเรนซ์มาจากที่บ้านไปยังกระทรวงต่างๆ โดยในช่วงแรกนายกฯ รายงานสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก จากนั้นนายกฯ กล่าวถึงเรื่องสถานการณ์โควิด-19 และการจัดซื้อวัคซีน ว่า ให้นำความคิดเห็นทางการแพทย์พิจารณาอย่างรอบคอบ และอ้างอิงจากแพทย์เป็นหลักรวมถึงพิจารณาเอกสาร เนื่องจากรัฐบาลไม่มีความรู้และความเชี่ยวชาญทางด้านการแพทย์ ขอให้ทางการแพทย์ว่ากันไป เพราะเรามีคณะกรรมการโรคติดต่อที่ดูเรื่องนี้อยู่แล้ว

ขณะเดียวกันที่ประชุม ครม.ยังพูดคุยกันถึงเรื่องการอนุญาตให้ใช้ชุดตรวจแบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง (โควิด-19 Antigen test self-test kits) โดยนายกฯ สั่งการให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ไปดูว่าทำไมราคาชุดตรวจจึงสูงถึงราคา 200-300 บาท และหามาตรการควบคุมราคาด้วย โดยให้นำกลับเข้ามารายงานใน ครม.อีกครั้งว่าจะมีวิธีการจัดการอย่างไรที่จะไม่ให้ราคาแพงมาก นอกจากนี้ นายกฯ ยังสอบถามกระทรวงการคลังว่ามีการเก็บภาษีหรือไม่ โดยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ชี้แจงว่า กระทรวงการคลังไม่มีการเก็บภาษีเวชภัณฑ์ใดๆ ที่ใช้กับโรคโควิด-19 อยู่แล้ว ส่วนใหญ่จะอ้างเรื่องค่าดำเนินการมากกว่า เอกชนอาจจะไปขึ้นราคากันเอง

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข กล่าวเน้นย้ำว่า ตามความเป็นจริงประชาชนไม่สามารถที่จะซื้อชุดตรวจดังกล่าวมาใช้ตรวจเองได้ ประชาชนจะต้องไปตรวจที่คลินิก เพื่อตรวจคัดกรองเบื้องต้นก่อน ประชาชนยังซื้อมาใช้ตัวเองไม่ได้ จึงขอเน้นย้ำว่า กลัวประชาชนจะซื้อมาใช้ตรวจเองแล้วเกิดอันตราย จึงยังไม่แนะนำให้ประชาชนซื้อมาใช้ตรวจเอง และชุดตรวจโควิด-19 มีการอนุญาตนำเข้ามาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ขายตรงกับโรงพยาบาลและใช้ในโรงพยาบาล โดยมีบริษัทขึ้นทะเบียนกับองค์การอาหารและยาไปแล้ว (อย.) 24 แห่ง

นอกจากนี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีชมเชยหน่วยงาน อาทิ กระทรวงการคลัง กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และทุกหน่วยงานออกแถลงการณ์แก้ข่าวเท็จ (เฟคนิวส์) กรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะมีการเก็บภาษีจัดซื้อวัคซีนโมเดอร์นา ซึ่งวิธีการดังกล่าวเป็นการจัดการที่ดี เช้าทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาช่วยกันแก้ข่าว จึงอยากให้มีแนวทางการแก้ปัญหากับข่าวเฟคนิวส์เช่นนี้ในทุกกระทรวงและหน่วยงาน 

ส่วนนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม รายงานเรื่องผลการยึดทรัพย์คดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพประมาณ  6,700 ล้านบาท นายกฯ จึงขอให้ทุกกระทรวงนำเสนอผลสรุปการทำงานของแต่ละกระทรวงนำเสนอประชาชนเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชนด้วย รวมถึงนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ชื่นชมและขอบคุณ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ริเริ่มโครงการข้าวล้านกล่อง เพื่อช่วยเหลือประชาชนในช่วงสถานการณ์ โควิด-19 ถือเป็นเรื่องที่ดีอยากจะให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์

อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายนายกฯ สั่งการเรื่องมาตรการเยียวยาประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบในช่วงการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 ขอให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ไปดูมาตรการเพิ่มเติมที่จะช่วยเหลือประชาชนไว้ด้วย รองรับหากสถานการณ์ภายในประเทศยังไม่ดีขึ้น รัฐบาลจะต้องดูแลช่วย เหลือประชาชน ผู้ประกอบการและคนในประเทศ ขอให้ไปเตรียมการเรื่องดังกล่าวมาด้วย

ทั้งนี้ นายกฯ ยังกำชับเรื่องการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ และแรงงานต่างด้าวในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ว่าหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องและมีหลักฐานเพียงพอให้เอาออกจากราชการไว้ก่อนได้เลย รวมถึงการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ และข่าวเฟคนิวส์ที่ออกมา ทุกหน่วยงานจะต้องช่วยกันชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนรับทราบโดยเร็ว.