สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ว่า นายทีโอโดโร ล็อกซิน จูเนียร์ รมว.การต่างประเทศของฟิลิปปินส์ แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี เกี่ยวกับเหตุการณ์เผชิญหน้าระหว่างเรือตรวจการณ์ 3 ลำของหน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์ กับเรือสนับสนุน 2 ลำของกองทัพฟิลิปปินส์ บริเวณสันดอน “โธมัสที่สอง” ใกล้กับหมู่เกาะสแปรตลีย์ ในทะเลจีนใต้ เมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา


ล็อกซิน จูเนียร์ กล่าวว่า เรือตรวจการณ์ของจีนเคลื่อนเข้ามาปิดเส้นทางเดอนเรือ และฉีดน้ำใส่เรือของฟิลิปปินส์ ซึ่งเตรียมส่งเสบียงให้แก่ทหารที่ประจำการอยู่บริเวณนั้น ส่งผลให้ต้องมีการระงับภารกิจชั่วคราว การกระทำของเรือจีน “ผิดกฎหมาย” รัฐบาลมะนิลาขอประณาม “ในระดับสูงสุด” โดยได้มีการเชิญเอกอัครราชทูตจีนเข้าพบแล้ว เพื่อย้ำเตือนด้วยว่า ภารกิจของเรือฟิลิปปินส์ในวันนั้น อยู่ในความคุ้มครองของสนธิสัญญากลาโหมร่วมฟิลิปปินส์-สหรัฐ


ขณะเดียวกัน ล็อกซิน จูเนียร์ เน้นว่า สันดอนโธมัสที่สองเป็นดินแดนภายใต้อำนาจอธิปไตยของฟิลิปปินส์ การเคลื่อนไหวดังกล่าวของจีนจะส่งผลต่อความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีเช่นกัน ด้านสถานเอกอัครราชทูตจีนและกระทรวงการต่างประเทศในกรุงปักกิ่งยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการ


ทั้งนี้ แนวสันดอนโธมัสที่สองตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งของจังหวัดปาลาวัน ที่อยู่ทางตะวันตกของฟิลิปปินส์ ประมาณ 105 ไมล์ทะเล โดยการที่แนวสันดอนโธมัสที่สองยังตั้งอยู่ในทะเลอาณาเขต ที่ถือเป็นเขตเศรษฐกิจจำเพาะ คือห่างไม่เกิน 200 ไมล์ทะเลจากเส้นฐาน กองทัพฟิลิปปินส์จึงเข้าไปประจำการในบริเวณนี้ ตั้งแต่ปี 2541.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES