สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ว่าตำรวจควบคุมฝูงชนของโปแลนด์ฉีดน้ำแรงดันสูง ร่วมด้วยการยิงแก๊สน้ำตาเป็นระยะ ตามแนวพื้นที่หลายแห่ง บริเวณแนวพรมแดนทางตะวันออกที่ติดเบลารุส เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เพื่อควบคุมสถานการณ์ที่ผู้อพยพจำนวนมากซึ่งอยู่ในฝั่งของเบลารุส ขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ และพยายามทำลายแนวรั้วลวดหนามเพื่อข้ามพรมแดน

รถฉีดน้ำแรงกันสูงของสำนักงานตำรวจโปแลนด์ ฉีดน้ำกดดันกลุ่มผู้อพยพให้ถอยห่างออกจากแนวรั้วลวดหนาม


ขณะที่กระทรวงกลาโหมในกรุงวอร์ซอประณามเบลารุส “ให้ความสนับสนุน” กลุ่มผู้อพยพ ด้วยการแจกระเบิดควัน เพื่อให้ใช้ขว้างปาใส่เจ้าหน้าที่ของโปแลนด์ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 9 นาย

ผู้อพยพจากตะวันออกกลางหลายพันคน ปักหลักประชิดรั้วกั้นพรมแดนระหว่างเบลารุสกับโปแลนด์


ด้านประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ผู้นำเบลารุส ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด และยืนยันว่า รัฐบาลมินสก์เนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมายไปแล้วมากกว่า 5,000 คน อย่างไรก็ตาม ผู้อพยพอย่างน้อย 11 คน ส่วนใหญ่มาจากตะวันออกกลาง เสียชีวิตระหว่างปักหลักอยู่ตามแนวพรมแดนระหว่างเบลารุสกับโปแลนด์ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หนึ่งในนั้นเป็นชายชาวซีเรีย วัย 19 ปี ที่เพิ่งมีการพบศพในสัปดาห์นี้


ในเวลาเดียวกัน สหภาพยุโรป ( อียู ) เตรียมขยายมาตรการคว่ำบาตรต่อเบลารุส และเรียกร้องรัฐบาลรัสเซีย “แสดงบทบาทอย่างสร้างสรรค์”.

เครดิตภาพ : AP