ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป นัดสุดท้าย เมื่อวันอังคารที่ 16 พ.ย. ที่ผ่านมา ในกลุ่ม G ฮอลแลนด์ เปิดสนาม เดอ ไคป์ ในเมืองร็อตเตอร์ดัม รับการมาเยือนของ นอร์เวย์ โดยเกมครึ่งแรกยังทำอะไรกันไม่ได้ เสมอกันอยู่ 0-0 เข้าสู่ครึ่งหลัง “อัศวินสีส้ม” เจ้าถิ่นยังเปิดเกมบุกหนัก ก่อนจะมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 84 จากการยิงของ สตีเวน เบิร์กไวจ์น และมาได้ประตูย้ำชัยในนาทีที่ 90+1 จาก เมมฟิส เดอปาย จบเกม ฮอลแลนด์ ชนะ 2-0

ผลคู่อื่นในกลุ่มเดียวกัน มอนเตเนโกร แพ้ ตุรกี 1-2 และ ยิบรอลตาร์ แพ้ ลัตเวีย 1-3 ส่งผลให้บทสรุปของกลุ่ม G ฮอลแลนด์ มี 23 คะแนนจาก 10 นัด เป็นแชมป์กลุ่ม คว้าสิทธิ์ไปลุยรอบสุดท้ายที่กาตาร์ปลายปีหน้า ส่วน ตุรกี มี 18 คะแนน จบเป็นอันดับ 2 ได้สิทธิเพลย์ออฟ ส่วน นอร์เวย์, มอนเตเนโกร, ลัตเวีย และ ยิบรอลตาร์ ตกรอบ

ส่วนในกลุ่ม D ฟินแลนด์ เปิดรังรับการมาเยือนของ ฝรั่งเศส ที่การันตีแชมป์กลุ่มแน่นอนแล้ว ผลปรากฏซ่า “ตราไก่” ทีมเยือนบุกชนะ 2-0 โดยได้จาก คาริม เบนเซมา นาทีที่ 66 และ คิลิยัน เอ็มบัปเป นาทีที่ 76 ส่วนผลอีกคู่ บอสเนีย แพ้ ยูเครน 0-2 สรุปสถานการณ์กลุ่มนี้ ฝรั่งเศส มี 18 คะแนนจาก 8 นัด เป็นแชมป์กลุ่มและคว้าตั๋วไปลุยรอบสุดท้ายปลายปีหน้า ส่วน ยูเครน มี 12 คะแนน เป็นอันดับ 2 ได้ไปเพลย์ออฟ ขณะที่ ฟินแลนด์, บอสเนีย และ คาซัคสถาน ตกรอบ

ขณะที่ในกลุ่ม E เวลส์ เปิดบ้านเสมอกับ เบลเยียม 1-1 โดย “ปิศาจแดงแห่งยุโรป” ทีมเยือน ขึ้นนำก่อน 1-0 จาก เควิน เดอ บรอยน์ ในนาทีที่ 12 แต่ “มังกรแดง” เจ้าถิ่น ตีเสมอได้สำเร็จจาก คีฟเฟอร์ มัวร์ ในนาทีที่ 32 ส่วนผลอีกคู่ เช็ก ชนะ เอสโตเนีย 2-0 สรุปสถานการณ์กลุ่มนี้ เบลเยียม มี 20 คะแนนจาก 8 นัด คว้าแชมป์กลุ่มพร้อมตีตั๋วไปเล่นในรอบสุดท้ายปลายปีหน้า ส่วน เวลส์ เป็นอันดับ 2 มี 15 คะแนน ได้สิทธิไปเพลย์ออฟ ขณะที่ เช็ก, เอสโตเนีย และ เบลารุส ตกรอบ

เครดิตภาพ : AP