สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน พบหารือกันผ่านระบบทางไกลอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อช่วงเช้าของวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นในกรุงปักกิ่ง ตรงกับช่วงค่ำของวันจันทร์ ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงวอชิงตัน


ทั้งนี้ เดิมทีรัฐบาลวอชิงตันเป็นฝ่ายเสนอไปยังรัฐบาลปักกิ่ง ขอให้ผู้นำทั้งสองประเทศได้พบกันแบบตัวต่อตัว อย่างไรก็ตาม สีเลี่ยงการเดินทางออกนอกประเทศ นับตั้งแต่จีนเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อเดือน ธ.ค. 2562

นายแอนโทนี บลิงเคน รมว.การต่างประเทศสหรัฐ และนางเจเน็ต เยลเลน รมว.คลังสหรัฐ ร่วมรับฟังการหารือระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน


ไบเดนกล่าวในตอนหนึ่งว่า จากสถานการณ์และบรรยากาศที่ดำเนินอยู่ในเวลานี้ “ถือเป็นความรับผิดชอบ” ของผู้นำจีนและสหรัฐ ในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกฝ่าย ว่าการแข่งขันระหว่างทั้งสองประเทศจะไม่ลุกลามขยายวงกว้างเป็นความขัดแย้ง “ไม่ว่าโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม”


ด้านสีซึ่งเรียกไบเดนว่า “เพื่อนเก่า” กล่าวว่า จีนมีความพร้อมร่วมงานกับสหรัฐ เพื่อสร้างเสริมความประนีประนอม และการดำเนินการอย่างสร้างสรรค์ในทุกมิติ เพื่อขับเคลื่อนความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีให้ดำเนินไปในทิศทางเชิงบวก

ขณะเดียวกัน ผู้นำจีนกล่าวถึงความจำเป็นในการเพิ่มการสื่อสารระหว่างกันด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิด “ในเรื่องที่ละเอียดอ่อน” หนึ่งในนั้นคือ ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไต้หวัน ซึ่งรัฐบาลปักกิ่งเน้นย้ำว่า เป็นเรื่องของอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจน “แกนกลางผลประโยชน์” ของจีน.

เครดิตภาพ : AP