สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 12 พ.ย.ว่าที่ประชุมใหญ่เต็มคณะครั้งที่ 6 ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน มีมติเมื่อวันศุกร์ ยกย่องประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในฐานะ “ผู้ถือหางเสือเรือ” และ “ผู้นำของปวงชน” เนื่องจากตราบใดที่ “สหายสี” ยังคงเป็นแกนกลางของพรรค นาวาลำใหญ่แห่งการฟื้นฟูต้องมี “นายท้ายเรือที่เข้มแข็งและเด็ดเดี่ยว” สามารถนำพาสมาชิกทุกระดับในพรรคฝ่าฟันมรสุมทุกลูกได้อย่างราบรื่น


ทั้งนี้ ผู้ถือหางเสือเรือหรือนายท้ายเรือ และผู้นำของปวงชน เป็นคำที่พรรคคอมมิวนิสต์ใช้สื่อถึงเฉพาะบุคลิกภาพของประธานเหมา เจ๋อตง นัยว่าเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการโฆษณาชวนเชื่อ เพื่อสนับสนุนผู้นำพรรค

South China Morning Post


ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงวันเดียว หลังที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3 ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ชุดที่ 19 “มีมติครั้งประวัติศาสตร์” เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ว่า “อุดมการณ์สี จิ้นผิง” หรือ “แนวคิดสี จิ้นผิง” คือ “แก่นของวัฒนธรรมจีน” และสมควรเป็นเข็มทิศกำหนดทิศทางการดำเนินงานของพรรคในอนาคต ปูทางสู่การสร้างประวัติศาสตร์ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคต่อเนื่องเป็นสมัยที่ 3 หรืออีกอย่างน้อย 5 ปี


แม้ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดอย่างเป็นทางการ แต่นับเป็นครั้งที่ 3 ในประวัติศาสตร์ 100 ปี ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งที่ประชุมมีมติ “ยกย่อง” สถานะให้กับผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงสุดของพรรค “ให้สูงยิ่งขึ้นไปอีก” โดยมติครั้งแรกเกิดขึ้นในสมัยของประธานเหมา เจ๋อตง เมื่อปี 2488 ตามด้วยการเชิดชูนายเติ้ง เสี่ยวผิง เมื่อปี 2524


อนึ่ง ย้อนกลับไปเมื่อปี 2561 ที่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ (เอ็นพีซี) ในกรุงปักกิ่ง มีมติยกเลิกจำกวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี และให้บรรจุ “หลักปรัชญาสีจิ้นผิง” ว่าด้วย “แนวคิดสังคมนิยมอันเป็นคุณลักษณะเฉพาะสำหรับชาวจีนในศักราชใหม่” เพิ่มเติมเข้าสู่รัฐธรรมนูญของจีนอย่างเป็นทางการ หลังที่ประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์มีมติในเรื่องนี้ เมื่อเดือน ต.ค. 2560 ถือเป็นผู้นำระดับสูงสุดคนที่ 3 ของพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งมีหลักปรัชญาเป็นชื่อของตัวเอง ต่อจาก “แนวคิดเหมา” ของประธานเหมา เจ๋อตง ผู้ก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์ และทฤษฎีปฏิรูปเศรษฐกิจของนายเติ้ง เสี่ยวผิง.

เครดิตภาพ : AP