มื่อวันที่ 11 ก.ค. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมฯได้ร้องเรียนไปยังสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ไต่สวนสอบสอบสวนเอาผิดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายแห่ง ที่ผลาญเงินงบประมาณแผ่นดิน โดยนำไปจัดซื้อจัดจ้างทำเสาไฟฟ้าประติมากรรมระบบโซล่าเซลล์ในราคาแพงลิ่วกันมากมาย ตามที่โชเชียลมีเดียและสื่อมวลชนช่วยกันจับผิดนั้น ล่าสุด สมาคมฯพบว่ากรณีดังกล่าวเคยมีหนังสือสั่งการจากสำนักงบประมาณ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2558 แจ้งไปยังอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เพื่อขอทำความตกลงในรายละเอียดในรายการค่าก่อสร้างระบบไฟฟ้าแสงสว่างโชล่าเซลล์ เพื่อขอให้ทบทวนความเหมาะสมของโครงการฯเสียใหม่ และควรระงับรายการก่อสร้างระบบไฟฟ้าแสงสว่างโชล่าเซลล์ดังกล่าวเสีย และหากจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าส่องสว่าง ขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิจารณาใช้ไฟฟ้าจากระบบจำหน่ายไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคที่มีอยู่ในท้องถิ่นจะเป็นการเหมาะสมและประหยัดกว่า

นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า หนังสือดังกล่าวกรมการปกครองส่วนท้องถิ่นได้แจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศให้รับทราบแล้ว และผู้ว่าราชการจังหวัด ได้แจ้งไปยังนายอำเภอในท้องที่ของตนให้รับทราบ และนายอำเภอก็ได้แจ้งไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)ในเขตปกครองของตนแล้วเช่นกัน ซึ่งหนังสือดังกล่าวเชื่อว่าทุก อปท. ทั่วประเทศจะได้รับทราบไม่เกินเดือนกรกฎาคม 2558 แต่ทว่าก็ยังปรากฎว่ามีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นจำนวนมาก อาทิ อบต.ราชาเทวะ อบต.หนองปรือ อำเภอบางพลี จ.สมุทรปราการ ยังดื้อแพ่งจัดทำโครงการก่อสร้างระบบไฟฟ้าแสงสว่างโชล่าเซลล์ โดยทำเสาไฟฟ้าประติมากรรมกินรี และหรือเครื่องบิน ฯลฯ กันอย่างมากมายตั้งแต่ปี 2558 มาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเชื่อว่าทำให้รัฐสูญเสียเงินแผ่นดินเพื่อทำโครงการดังกล่าวทั่วประเทศนับหมื่นล้านบาท อันชี้ให้เห็นว่า อปท.หลายแห่งจงใจที่จะฝ่าฝืนคำสั่งหรือระเบียบของทางราชการดังกล่าวอย่างชัดแจ้ง

ด้วยเหตุดังกล่าวสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำหลักฐานดังกล่าวไปร้องเรียนและมอบเพิ่มเติมให้กับ ป.ป.ช. เพื่อใช้ประกอบในการเอาผิด อปท. และบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งระบบในการดื้อแพ่งจัดทำโครงการก่อสร้างระบบไฟฟ้าแสงสว่างโชล่าเซลล์เสาไฟฟ้าประติมากรรมดังกล่าว โดยจะเดินทางไปร้องในวันที่ 12 ก.ค.นี้ เวลา 10.00 น.