นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า กระทรวงดีอีเอส ได้มอบหมายให้ไปรษณีย์ไทย หรือ ปณท ดำเนิน โครงการ ไปรษณีย์ รีบ็อกซ์ (reBOX) การเปลี่ยนกล่อง และซองที่ไม่ใช้แล้ว ให้มีคุณค่าอีกครั้ง ซึ่งการดำเนินงานตั้งแต่เดือนพ.ค. 64 เป็นต้นมา มีปริมาณกล่องพัสดุ และซองเข้าสู่ระบบรีไซเคิลแล้วกว่า 200,000 กิโลกรัม โดยทุกภาคส่วนได้ให้ความสนใจ กับการจัดการสิ่งของ ที่ไม่ใช่แล้วให้มีประโยชน์เพิ่มขึ้น ตอบรับกระแสแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน ที่เป็นการจัดการกับของเสียหรือ ขยะจากสินค้าหลังจากการบริโภค เพื่อเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ที่เป็นการพัฒนาเศรฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

ด้าน นายดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ปณท กล่าวว่า ขณะนี้เป็นช่วงโค้งสุดท้ายของโครงการดังกล่าว ซึ่งได้ทยอยส่งกล่องและซอง ที่ได้รับจากประชาชนและหน่วยงานต่างๆ ให้บริษัทเอสซีจี แพ็คเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) แล้ว และองค์การเภสัชกรรมพร้อมจัดทำหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ได้มากถึง 300,000 ชิ้น บรรจุรวมอยู่ในกล่อง บ็อกซ์บุญ เพื่อมอบให้โรงพยาบาลในการป้องกันเชื้อโควิด-19 โดยพร้อมส่งมอบทันทีที่จัดทำหน้ากากอนามัยเสร็จเรียบร้อย ทั้งนี้ องค์กรภาครัฐ ธุรกิจเอกชน รวมถึงภาคประชาชน สามารถรวบรวมกล่องพัสดุ และซองกระดาษที่ไม่ใช้แล้ว มาให้ที่ไปรษณีย์ใกล้บ้านทั่วประเทศ รวมทั้งจุดรับรวบรวมอื่นๆ เช่น กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กองบัญชาการกองทัพไทย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (สำนักงานใหญ่) ฟิวเจอร์ปาร์ครังสิตและสเปลล์ และองค์การเภสัชกรรม ได้ถึงวันที่ 31 ต.ค.64 นี้

“กระแสการการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจไปทั่วโลก ซึ่งปัจจุบัน จะได้เห็นการเชื่อมโยงเรื่องสิ่งแวดล้อมเข้ากับอุตสาหกรรมและธุรกิจประเภทต่าง ๆ แต่ในภาคการขนส่ง ยังไม่มี ผู้ดำเนินโครงการดังกล่าวมากนัก ไปรษณีย์ไทยจึงพร้อมขับเคลื่อนและสร้างสรรค์กล่องและซองที่ไม่ใช่แล้วให้มีคุณค่า เพื่อยืนหยัดเคียงคู่สร้างโลกให้ดีขึ้นในทุกๆ วัน และส่งต่อความรักความห่วงใยเคียงข้างคนไทยในทุกสถานการณ์ต่อไป” นายดนันท์ กล่าว