เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ที่กระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข เป็นประธานพิธีเปิดงานการ Kick off สัปดาห์สุขภาพจิตแห่งชาติ 2567 “ปลุกพลังใจ ก้าวไปพร้อมกัน” (Hopeful Hearts, Stronger Minds) โดยมี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายวิชัย ไชยมงคล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายกิตติกร โล่ห์สุนทร เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต และผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วม
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบัน สังคมไทยเผชิญกับภาวะวิกฤติหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติจากธรรมชาติ ภัยพิบัติจากน้ำมือมนุษย์ ความกดดันจากวิกฤติเศรษฐกิจ รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงอีกหลายอย่างที่ทุกคนต้องเผชิญ ส่งผลให้เกิดความกดดัน บีบคั้นต้องปรับตัวในการดำเนินชีวิต ซึ่งหากปรับตัวได้ไม่ดีพอ ก็อาจจะก่อให้เกิดความเครียด มีปัญหาสุขภาพจิต จนอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต หรือทำให้การตัดสินใจหลายอย่างผิดพลาดได้ ดังนั้น จึงจำเป็นที่คนไทยจะต้องมีหลักยึด เพื่อที่จะนำตัวเองให้ผ่านพ้นวิกฤติต่างๆ ที่เผชิญอยู่ได้ เราเรียกว่าพลังใจ หรือ “อึด ฮึด สู้” ซึ่งประกอบด้วย
“1.พลังอึด ความสามารถทางจิตใจ ความอดทนต่อแรงกดดันและความเครียด โดยไม่ยอมแพ้ ช่วยให้เผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก โดยไม่ย่อท้อหรือหมดกำลังใจ เป็นคุณสมบัติที่ทำให้บุคคลไม่แตกสลายจากเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจ 2.พลังฮึด การรวบรวมพลังและทรัพยากรที่มีอยู่ ทั้งจากตัวเองและคนรอบข้าง ปลุกความมุ่งมั่น แรงจูงใจ ทั้งภายในและภายนอก โดยเปลี่ยนมุมมองที่สิ้นหวังต่ออุปสรรคให้มีความหวังมากขึ้น และเห็นเป็นโอกาสในการเติบโต และ 3.พลังสู้ พลังส่วนบุคคล เพื่อให้ตัวเองผ่านภาวะวิกฤติ และสามารถนำไปช่วยเหลือ แนะนำคนอื่นได้ ผมจึงขอให้ใช้หลักการนี้เผยแพร่ไปสู่คนรอบข้าง เพื่อให้ทุกๆ คน สามารถร่วมกันก้าวผ่านวิกฤติไปพร้อมกัน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งเราไม่สามารถห้ามวิกฤติปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้ แต่ถ้าเรามีพลังใจ “อึด ฮึด สู้” ก็เชื่อมั่นว่า ทุกคนจะผ่านพ้นวิกฤติต่างๆ ไปได้อย่างแน่นอน” รมว.สาธารณสุข กล่าว
นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า วันที่ 1-7 พ.ย. คณะรัฐมนตรี มีมติให้เป็นสัปดาห์สุขภาพจิตแห่งชาติ วันนี้ จึงมีการจัดกิจกรรม เพื่อให้สอดคล้องกับงานสาธารณสุข โดยธีมงานในวันนี้คือ พลังใจ อึด ฮึด สู้ เพื่อให้เกิดความอดทน พยายาม รวมพลัง ไม่ยอมแพ้ และสู้ ด้วยเหตุและผล เนื่องจากในยามวิกฤติ บางทีอาจลืมแนวทางปฏิบัติ ตนก็ขอให้นึกถึงแนวทางของกรมสุขภาพจิตด้วย
เมื่อถามถึงกรณีเภสัชกรเสียชีวิตจากภาวะเครียดในการทำงาน จะมีการกำชับหัวหน้าส่วนราชการอย่างไร นายสมศักดิ์ กล่าวว่า คนทำงานบางครั้ง คนอื่นก็ดูไม่รู้ว่าเครียด ดังนั้น ต้องมีการแนะนำ และสังเกตคนรอบข้างด้วย ซึ่งการให้กำลังใจ ถือเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยกระทรวงสาธารณสุข ก็มีหน่วยเยียวยาจิตใจ เพื่อสร้างพลังบวก ซึ่งถือเป็นศิลปะทางการแพทย์ อย่างเช่น เวลาเลือกตั้ง หากตนเลือกตั้งแพ้ กำลังใจเสีย ก็ต้องเอาใหม่ครั้งหน้า อย่าหายไป เราต้องสู้ ทั้งพลังกาย พลังใจ สู้ต่อไปอย่างมีเหตุผล โดยอย่าไปเครียด เพราะถ้าเครียดก็ไม่มีอะไรดีขึ้น