พาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ทุ่งกุลาร้องไห้ ติดตามการซื้อขายข้าวเปลือกหอมมะลิฤดูกาลใหม่ ที่เริ่มทยอยออกสู่ตลาด และพบปะกลุ่มเกษตรกร และสหกรณ์ ต่อเนื่องจากที่คณะกรรมาธิการเกษตรและสหกรณ์ได้มาหารือประเด็นสินค้าข้าวกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เมื่อ 24 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา รวมทั้งเพื่อเตรียมความพร้อมในการเสนอมาตรการต่อคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ในวันที่ 8 พ.ย. นี้ พบว่า สถานการณ์ราคาซื้อขายยังอยู่ในเกณฑ์ดี
นายวิทยากร มณีเนตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีนโยบายดูแลพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่กำลังทยอยออกสู่ตลาดในขณะนี้ ให้ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อขาย จึงลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวหอมมะลิในเขตทุ่งกุลาร้องไห้ เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ณ สหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จำกัด พบว่า เกษตรกรเริ่มทยอยเก็บเกี่ยวข้าวเปลือกหอมมะลิ กข15 มาจำหน่ายโดยเป็นข้าวเกี่ยวสด ความชื้นประมาณ 25% ซึ่งราคาเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2567 สหกรณ์รับซื้ออยู่ที่ 12,500 บาท/ตัน คิดเป็นข้าวแห้งประมาณ 14,700 บาท/ตัน ซึ่งถือว่าราคายังอยู่ในเกณฑ์ดี เกษตรกรมีความพอใจ
ทั้งนี้จากการหารือร่วมกับสหกรณ์ฯ พบว่าเป็นสหกรณ์ขนาดใหญ่สามารถรวบรวม ข้าวเปลือกจากสมาชิกได้ปีละประมาณ 100,000 ต้น และร่วมโครงการชะลอการขายและสินเชื่อ รวบรวมข้าวเปลือกทำให้สมาชิกได้ประโยชน์จากราคาที่ดีขึ้น ซึ่งในปีนี้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ได้เตรียมเสนอมาตรการในการชะลอผลผลิตที่จะออกกระจุกตัวในช่วงเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม 2567 พร้อมเสนอในการประชุม นบข.ที่จะมีการประชุมในวันที่ 8 พ.ย. 67 เชื่อว่าจะทำให้ราคาในปีนี้มีเสถียรภาพ เป็นที่พอใจของเกษตรกรในราคาจำหน่ายเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา โดยเกษตรกรพึงพอใจกับแนวทางมาตรการที่นำเสนอในวันที่ 8 พ.ย.67 นี้
นายวิทยากร กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนั้นเพื่อเป็นการสร้างมูลค่า และรักษาคุณภาพข้าวหอมมะลิ ซึ่งเป็นข้าวที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ได้พบปะกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนข้าวหอมมะลิสงเปลือยและกลุ่มนาแปลงใหญ่ข้าวเมืองบัว เพื่อส่งเสริมและต่อยอดกิจกรรมการประกวดข้าวหอมมะลิและเชื่อมโยงตลาดให้กับเกษตรกรเป็นการเสริมศักยภาพให้กับกลุ่มคนตัวเล็กอย่างต่อเนื่อง สำหรับการซื้อขายข้าวเปลือกที่ออกมาในช่วงนี้กรมการค้าภายในได้ติดตามกำกับดูแลการซื้อขายข้าวเปลือกอย่างใกล้ชิดเพื่อให้เกษตรกรได้รับความเป็นธรรมในการชั่งน้ำหนักและวัดความชื้น หากพบเห็นผู้รับซื้อมีพฤติกรรมที่เป็นการเอาเปรียบเกษตรกรชาวนาสามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน กรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ