สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ว่าผลสำรวจความคิดเห็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวอเมริกัน เผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ โดย “มอร์นิง คอนซอลต์” ปรากฏว่า นางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐและแคนดิเดตของพรรคเดโมแครต มีคะแนนนิยมนำนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดี ซึ่งเป็นตัวแทนของพรรครีพับลิกัน 49% ต่อ 47% ซึ่งเป็นส่วนต่างที่ลดลง หลังนำ 3% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และนำ 4% ในการสำรวจสองครั้งก่อนหน้านั้น


ขณะที่ผลสำรวจโดยสถานีโทรทัศน์เอบีซีนิวส์ ร่วมกับศูนย์วิจัยอิปซอส พบว่า แฮร์ริสมีคะแนนนิยมนำเหนือทรัมป์ 49% ต่อ 46% ลดลงจาก 51% ต่อ 47% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว


ด้านผลสำรวจโดยสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีนิวส์ ร่วมกับวิทยาลัยอีเมอร์สัน ให้แฮร์ริสและทรัมป์มีคะแนนนิยมเสมอกันที่ 49% และยาฮูนิวส์ร่วมกับยูกอฟ ให้ผู้สมัครทั้งสองคนมีคะแนนนิยมเสมอกันที่ 47%


เมื่อวิเคราะห์แยกเฉพาะกลุ่มรัฐที่เป็นสวิงสเตต พบว่าทั้งคู่มีคะแนนนิยมเบียดกันอย่างสูสี โดยทรัมป์มีคะแนนนิยมนำที่รัฐเพนซิลเวเนีย นอร์ทแคโรไลนา จอร์เจีย เนวาดา และแอริโซนา ส่วนแฮร์ริสมีคะแนนนิยมนำในรัฐวิสคอนซินและมิชิแกน

นอกจากนี้ การคาดการณ์โดย projects.fivethirtyeight.com วิเคราะห์ว่า หากมีคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง 100 เสียง ทรัมป์มีโอกาสรวบรวมได้ 53 เสียง และแฮร์ริส 47 เสียง และนายเนต ซิลเวอร์ หนึ่งในนักสถิติชื่อดังระดับโลกชาวอเมริกัน ทำนายว่า ทรัมป์มีโอกาสชนะที่ 51.5%.

เครดิตภาพ : AFP