เมื่อวันที่ 2 พ.ย. นางวันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกทม. เป็นประธานในงานวันคล้ายวันสถาปนาสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประจำปี 2567 ครบรอบ 21 ปี โดยกิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายเครื่องสักการะศาลพระภูมิ ศาลตายาย ศาลพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ และอนุสาวรีย์บรรพบุรุษวีรชนนักดับเพลิง และพิธีมอบประกาศเกียรติคุณผู้ปฏิบัติงานดีเด่นและผู้ทำประโยชน์ต่อหน่วยงาน จำนวน 24 คน ณ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขตราชเทวี โดยมี นายศุภกฤต บุญขันธ์ รองปลัดกทม. นายสุริยชัย รวิวรรณ ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหน่วยงานภาคีเครือข่าย ร่วมงาน


ปลัดกทม. กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับพวกเราที่ได้รับประกาศเกียรติคุณในวันนี้ ซึ่ง 21 ปี เป็นเวลาที่นานพอควรที่จะบอกว่าเรามีความพร้อม มีการพัฒนาก้าวหน้าไปมากจากวันที่รับโอนทั้งคนและของ วันนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างพอสมควร แต่โลกเปลี่ยนแปลงมากกว่าที่เราคิดวันนี้ภัยมีถี่ขึ้น มีความรุนแรงมากขึ้นในแต่ละครั้ง ทีมของเราหลายคนในวันนี้ไม่ใช่แค่ช่วยเหลือในประเทศ แต่เราไปช่วยผู้ประสบภัยต่างประเทศในนามของประเทศไทย ภัยที่จะเกิดขึ้นนั้นเป็นภัยที่คนทำงานทั้งกู้ชีพและกู้ภัยต้องมีความพร้อม นั่นหมายถึงว่าพวกเราทุกคนจำเป็นจะต้องพัฒนาและฝึกฝนทักษะที่สำคัญ 


วันนี้มีเทคโนโลยีที่ใช้ในการทำงานมากขึ้น และถ้าเป็นประโยชน์สามารถที่จะเอามาใช้ในบริบทของเราได้ วันนี้ยังมีอีกหลายภัยและมีงานอีกมากที่รอเราอยู่ บุคลากรของเราเท่านี้ไม่เพียงพอต่อการทำงาน เพราะเราจะต้องพร้อม 24 ชั่วโมง ภาคีเครือข่ายพี่น้องอาสาสมัครที่เราได้ร่วมทำงานกันอยู่นั้น จะเป็นกำลังที่สำคัญเป็นทีมเดียวกัน ดังนั้นขอให้แตะต่อเชื่อมและร่วมมือกันอย่างเป็นระบบ เพื่อให้การปฏิบัติการนั้นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้ประสบภัยได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว


ทั้งนี้ วันที่ 2 พฤศจิกายนของทุกปี กำหนดเป็นวันสถาปนาสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งจากวันที่ได้รับโอนภารกิจตามมติคณะรัฐมนตรี จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาอยู่ในสังกัดกรุงเทพมหานคร จนถึงปัจจุบันนับเป็นเวลา 21 ปีแล้ว ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ระงับเหตุสาธารณภัยในเขตกรุงเทพมหานครมากมาย  


นอกจากนี้ ยังส่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัย สนับสนุนการเข้าระงับเหตุสาธารณภัยสำคัญที่ได้รับการร้องขอ ทั้งจากปริมณฑล ต่างจังหวัด ต่างประเทศ ให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบเหตุสาธารณภัย มาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงให้ความรู้ และซ้อมอพยพหนีไฟแก่ประชาชนและหน่วยงานต่าง ๆ ปัจจุบันสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มีนักดับเพลิงและกู้ภัยประมาณ 1,700 คน ประจำสถานีดับเพลิงและกู้ภัยทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งนอกจากปฏิบัติภารกิจหลักในการระงับเหตุเพลิงไหม้แล้ว ยังมีทีมปฏิบัติการพิเศษที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ทั้งทีมตอบโต้สารเคมีและวัตถุอันตราย ทีมกู้ภัยในที่สูงและอับอากาศ ทีมค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (USAR) ทีมกู้ภัยทางน้ำ ทีมอากาศยานไร้คนขับและการสื่อสาร รวมถึงทีมกู้ภัยบนท้องถนน ซึ่งมีการอบรม เพิ่มพูนความรู้ ทบทวน และพัฒนาทักษะอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถรับมือกับทุกภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ.