เมื่อวันที่ 2 พ.ย. นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกฯ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณี นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ออกมาระบุ หากเดินหน้าตามแผนแก้รัฐธรรมนูญเดิม จะไม่สามารถจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ทันการเลือกตั้งครั้งต่อไปตามที่หาเสียงไว้ จึงต้องคิดแผนใหม่ ว่า ขณะนี้ฝ่ายบริหารของเพื่อไทย กำลังตั้งวงคิดกันอยู่ว่าจะมีซีนาริโอสองสามอย่าง เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หนึ่ง ถ้ากฎหมายประชามติจำเป็นต้องรอ 180 วัน แนวโน้มการแก้ไขรัฐธรรมนูญอาจทำไม่เสร็จภายในรัฐบาลชุดนี้ ถ้าจะทำให้เสร็จต้องเร่งรัดขั้นตอนเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นวิธีที่ยากลำบาก ก็กำลังคิดว่าหากเป็นแนวทางนี้จะเดินอย่างไร สอง คือกฎหมายประชามติเสร็จเร็ว ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมาธิการร่วมสองสภา แบบนั้นจะทำให้จัดทำประชามติได้เร็ว ไม่เสียเวลา 180 วัน แบบนั้นก็มีแนวโน้มได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทัน หรือแนวทางที่สาม เรากำลังคิดว่าจะมีวิธีการอื่นใดหรือไม่ ที่จะทำรัฐธรรมนูญโดยไม่ต้องรอกฎหมายประชามติฉบับใหม่ ซึ่งขณะนี้มีแนวคิดถึงการทำประชามติสองครั้ง ซึ่งเป็นไปได้ แต่ต้องหารือกับหลายฝ่าย สามเรื่องนี้กำลังดูกันอยู่
เมื่อถามว่าการทำประชามติสองครั้ง จะขัดกับแนวคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ลึกๆ ถ้าดูคำวินิจฉัยส่วนตนของศาลรัฐธรรมนูญมีถึง 6 เสียง ที่บอกว่าทำสองครั้งก็พอ แต่สภาไม่กล้าฟันธง กลัวจะเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ ซึ่งขณะนี้เราอยู่ระหว่างปรึกษาหารือกันว่าสุดท้ายควรเป็นอย่างไร
เมื่อถามว่า หากแก้รัฐธรรมนูญไม่ทัน พรรคเพื่อไทยหรือรัฐบาลจะต้องรับผิดชอบอย่างไรหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า จะต้องรับผิดชอบอย่างไร เพราะตอนนี้ก็เป็นปัญหาอยู่ และไม่ใช่ว่าเราไม่ทำ เราพยายามเต็มที่ เป็นเรื่องที่เราตั้งใจ นโยบายก็ออกมาชัดเจนว่าต้องเร่งรัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยเร็ว การแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่ในเป้าหมายที่เราอยากให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพียงแค่เราได้วางสถานการณ์เอาไว้ 3 แบบ แต่ไม่ใช่ว่าเราจะล้มเลิกความตั้งใจที่จะทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
