เมื่อวันที่ 31 ต.ค. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) และ ศปช.ส่วนหน้า เปิดเผยว่า กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานในวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย. ปริมาณฝนจะลดลง และจะมีมวลอากาศเย็นระลอกใหม่ ซึ่งจะทำให้อุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย.นี้เป็นต้นไป และอาจมีลมแรง ศปช. ขอแจ้งเตือนเกษตรกรในช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตเตรียมรับมือ โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ ส่วนภาคใต้จะกลับมามีปริมาณฝนตกเพิ่มขึ้นวันที่ 3-5 พ.ย.นี้ โดยเฉพาะที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี พังงา นครศรีธรรมราช ตรัง ภูเก็ตและสงขลา ขณะที่พายุไต้ฝุ่น “กองเร็ย” บ่ายนี้เคลื่อนตัวผ่านไปเกาะไต้หวันและจีนแล้ว ซึ่งจะไม่มีผลกระทบกับประเทศไทย ทั้งนี้ ศปช. ขอเตือนประชาชนให้ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทางไปประเทศในโซนดังกล่าว
โฆษก ศปช. กล่าวต่อว่า ส่วนสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาหลังปริมาณฝนลดลง กรมชลประทานได้ปรับลดการระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. วันเดียวกันนี้ ระบายน้ำที่อัตรา 1,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามภายใน 10 วันนี้จะปรับลดการระบายน้ำให้เหลือ 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีเพื่อไม่ให้กระทบพื้นที่ท้ายน้ำ.