จากกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในหลักการหลักเกณฑ์เร่งรัดการแก้ไขปัญหาสัญชาติและสถานะบุคคลให้แก่บุคคลที่อพยพเข้ามาอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลานาน และบุตรที่เกิดในไทย ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนอ โดยเป็นการร่นระยะเวลาการดำเนินงานจากหลายร้อยวัน เหลือเพียง 5 วัน ขณะที่กลุ่มเป้าหมาย คือ ชนกลุ่มน้อย และกลุ่มชาติพันธุ์ 19 กลุ่ม ที่อยู่อาศัยในไทยมานานและรอการพิจารณากำหนดสถานะอยู่ ซึ่งมีจำนวน 483,626 คน ตามที่ข่าวเสนอไปก่อนหน้านี้

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บก.ลายจุด หรือ สมบัติ บุญงามอนงค์ นักกิจกรรมทางการเมือง ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ (X) ถึงประเด็นดังกล่าว พร้อมระบุข้อความว่า “ตอนผมเด็ก สิ่งที่ผมแปลกใจคือ พ่อกับแม่ถือใบสำคัญต่างด้าว ในขณะที่ผมเป็นคนไทยตั้งแต่เกิด นั่นเพราะในยุคที่ผมเกิดนั้นหลักกฎหมายสัญชาติ คือ ใครเกิดเมืองไทยก็เป็นคนไทย จนวันหนึ่งมีประกาศคณะปฏิวัติ ปว.337 ในยุคจอมพลถนอม ไล่ถอนสัญชาติลูกเวียดนามเกิดไทย แต่ผลกระทบทางกฎหมายได้เลยไปถึงลูกชาวเขาที่เกิดในไทยด้วย”

อีกทั้ง “คนที่ไม่ได้เรียนกฎหมาย มักเข้าใจว่าคนต่างด้าว คือ คนผิดกฎหมาย ในความเป็นจริง คนที่ถือใบสำคัญต่างด้าวคือคนที่เข้าเมืองถูกกฎหมาย และได้รับสิทธิ์อยู่อาศัยถาวร ไม่ต้องบินออกไปต่อวีซ่าทุก 3-6 เดือนเหมือนฝรั่งที่มาเที่ยวเมืองไทย คนยุคพ่อแม่ผมที่เดินทางหนีภัยความตายมาจากจีน เวลานั่งเรือมาก็มาถึงท่าเรือแล้ว จนท.ไทยก็แจกเอกสารทำใบต่างด้าวตรงท่าเรือนั่นแหละ ความคิดในเวลานั้น เรายังมองประโยชน์จากการมีแรงงานในประเทศ และมองว่าการทำบัตรให้คือการสำรวจการมีตัวตนของคนเหล่านั้น ดีกว่าไม่มีข้อมูลพวกเขาเลยว่าเป็นใครมีจำนวนกันเท่าไหร่ ในกรณีคนถือใบต่างด้าวรัฐไทยสามารถเนรเทศได้ด้วย หากคนนั้นกระทำตนไม่เหมาะสม แต่คนที่มีสัญชาติไทยตั้งแต่เกิดรัฐไม่สามารถเนรเทศได้”

นอกจากนี้ “ผู้คนตามแนวชายแดน โดยเฉพาะตามเขตภูเขาเวลาเดินทางระหว่างพรมแดน มันไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐไปสำรวจหรอกเวลานั้น อยู่ๆกันไปเป็นชนเผ่าตามป่าตามเขา จนวันหนึ่ง ร.9 ได้เอาเหรียญไปแจกชาวเขา จึงนับเป็นการสำรวจชาวเขาครั้งแรกและเหรียญนี้กลายเป็นหลักฐานว่า เป็นชาวเขาติดแผ่นดิน ต่อมาคนที่มีเหรียญสามารถนำมาเป็นหลักฐานในการทำบัตรประชาชนได้ หลังจากนั้นก็มีการสำรวจโดยกองสงเคราะห์ชาวเขา จนมาถึงมือกรมการปกครองในการสำรวจและออกบัตรสำรวจในที่สุด”

อีกทั้ง “ข่าวมติ ครม. เรื่องการให้สัญชาติชาวเขาเมื่อวันก่อน เป็นสิ่งที่ควรทำ และผ่านความเห็นชอบของ สมช. แล้ว เป็นแนวทางปฏิบัติที่ทำกันมา เมื่อคนไร้สัญชาติอพยพหรือเกิดในไทย และผ่านกระบวนการหล่อหลอมกลมกลืนกับสังคมไทยมาหลายสิบปีแล้ว ควรที่จะให้สถานะที่ถูกกฎหมายกับคนเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นใบสำคัญคนต่างด้าว หรือให้สัญชาติไทยกับเด็กที่เกิดในไทย นี่ไม่ใช่เรื่องการเมือง มันเป็นเรื่องของความเป็นมนุษย์ ไม่ใช่การขายชาติหรือคลั่งชาติ” บก.ลายจุดกล่าว

ขอบคุณข้อมูล : บก.ลายจุด