หลังจากช่วงต้นเดือน ต.ค. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ไปนั่งหัวโต๊ะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ในวันที่ 7 ต.ค. 67 ถือเป็นครั้งแรกของการร่วมประชุม ก.ตร. หลังจากเข้าดำรงตำแหน่ง นายกฯ โดยการประชุมพิจารณาคัดเลือก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ (ตท.25/นรต.41) รอง ผบ.ตร. อาวุโสลำดับ 1 เป็น ผบ.ตร.คนที่ 15
นับเป็นอีกหน้าประวัติศาสตร์ ก่อนหน้านี้ 10 กว่าปีก่อน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคยเข้ามานั่ง ประธาน ก.ต.ช. (สมัยนั้นยังเป็น คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ) จึงเป็นนายกฯ สุภาพสตรี คนที่ 2 ถือเป็นสายเลือดสีกากีด้วย ได้เข้ามากำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานที่ใกล้ชิดประชาชน แต่จะกี่ยุคสมัยใครขึ้นมากุมบังเหียน หรือจะเดินหน้าปฏิรูปต่าง ๆ นานา แม้จะได้ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 แต่สารพัดปัญหายังเหมือนเดิม
อีกทั้งวลีที่ถูกกล่าวขานในยุทธจักรสีกากี ยังอยู่เหมือนเดิม “ฆ่าน้อง ฟ้องนาย ขายเพื่อน“ เอาแค่ในรอบปี 67 สารพัดมรสุมถาโถมใส่วงการตำรวจต่อเนื่อง หลากหลายเรื่องราว ทั้ง ศึกบิ๊กสีกากี, ก๊วนสีกากีนอกรีต เข้าไปพัวพันแก๊งมังกรข้ามชาติ เครือข่ายทุนจีนสีเทา เครือข่ายพนันออนไลน์ ฯลฯ จนกลายเป็นเรื่องฮือฮา โปลิศจับตำรวจ
หลายคดีใหญ่ยังจับกุมไม่ได้ โดยเฉพาะ กลุ่มสีกากีนอกรีตที่เป็น หัวโจกในกลุ่มพนันออนไลน์ กอบโกยรายได้มหาศาลกันมายาวนาน เมื่อมาถึงยุค นายกฯแพทองธาร นั่งประธาน ก.ตร. และ บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ นำทัพสีกากี (เกษียณอายุ ปี 2569) นายกฯให้ความสำคัญกับ ปัญหายาเสพติด เป็น 1 ใน 10 นโยบายสำคัญเร่งด่วนที่จะดำเนินการทันที นอกจากยาเสพติดแล้ว อีกปัญหาที่เติบโตและปราบไม่สะเด็ดน้ำเหมือนกัน พนันออนไลน์ กลายเป็นขุมทรัพย์มหาศาล
หลังจากหมดเดือน ต.ค. ขยับเข้าสู่เดือน พ.ย. วาระสำคัญที่หลายฝ่ายจับตาลุ้น หนีไม่พ้นการจัดแถว “ผบช.” ที่จะเป็นฟันเฟืองใหญ่ในการช่วยขับเคลื่อนผลงานของตำรวจ โดยไทม์ไลน์การประชุม ก.ตร. เพื่อพิจารณาบัญชี “นายพลใหญ่” ระดับ พล.ต.ท.-พล.ต.อ. ไล่จากตำแหน่ง ผบช. ขยับขึ้น ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ ผู้ช่วยฯ เป็น รอง ผบ.ตร. โดยระดับนี้ ตามกฎหมายระบุให้การแต่งตั้งเรียงตามลำดับอาวุโส 100%
ขณะที่ตำแหน่งสำคัญ ระดับ “ผบช.” ที่จะช่วยเป็นมือไม้การบริหารงานนโยบายให้กับ ผบ.ตร. ได้แบบเต็มรูปแบบนั้น เพราะรับผิดชอบกำกับดูแลหน่วยงานกองบัญชาการ ปีนี้มีว่าง 14 เก้าอี้ โดยมี บช.ที่สำคัญ อาทิ ผบช.น. ผบช.สตม., ผบช.สอท. (ไซเบอร์), ผบช.ส., ผบช.ตชด., หัวหน้าจเรตำรวจ และ ผบช.ภ.1-4 ฯลฯ กฎหมายกำหนดเกณฑ์แต่งตั้งให้ยึด อาวุโส 50% และความรู้ความสามารถ 50%
โผรายชื่อบัญชีนายพลสีกากีผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงนั้น จะถูกนำเข้าสู่ คณะกรรมการกลั่นกรองระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มี ผบ.ตร.เป็นประธาน ขณะที่ รอง ผบ.ตร., จเรตำรวจแห่งชาติ และ ตัวแทน ก.พ.ร่วมเป็นกรรมการ จากนั้นจะนำ โผรายชื่อ ผบช. เสนอต่อที่ประชุม ก.ตร. ซึ่งมี นายกฯแพทองธาร เป็นประธาน
ช่วงปลายฝนต้นหนาว ก่อนประชุม ก.ตร. เรียกว่าฝุ่นเริ่มจะตลบอบอวลอีกครั้ง ตอนนี้ถนนทุกสายวิ่งไปแถวไหนนั้นคงไม่ต้องบอก แต่ขอให้คำนึงถึงบทบาทหน้าที่ของ “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” เป็นสำคัญ
วงการสีกากีบอบช้ำมามากพอแล้ว!! หากจะคิดฝากผลงานไว้เป็นตำนาน คงต้องเริ่มนับหนึ่งจาก “การจัดทัพนายพลสีกากี” ครั้งนี้ได้เลย.
………………………………..
เชิงผา