เมื่อวันที่ 28 ต.ค. กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังกว่า 10 คน เดินทางไปร้องขอความช่วยเหลือกับ อบต.ชุมแสง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ หลังจากเกษตรกรจำนวน 12 คนถูกนายทุนผู้รับซื้อมันสำปะหลัง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ส่งทนายฟ้องศาลกล่าวหาเกษตรกรว่า “แจ้งความเท็จ” ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 ก.ย. 67 เกษตรกรกลุ่มนี้ได้เดินทางไปที่ สภ.ปะคำ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ เพื่อต้องการให้ตำรวจหาแนวทางช่วยเหลือ เนื่องจากถูกลานรับซื้อมันสำปะหลังแห่งหนึ่ง ไม่ยอมจ่ายเงินที่เกษตรกรนำมันสำปะหลังมาขายให้ คิดเป็นเงินรวมกว่า 1 ล้านบาท

ทั้งนี้ เกษตรกรได้แจ้งกับตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวันว่า ลานรับซื้อมันสำปะหลังในราคากก.ละ 1.50 บาทหรือตันละ 1,500 บาท จ่ายเงินสดทันที แต่ถ้านัดจ่าย 3 เดือน จะให้ราคากิโลกรัมละ 3 บาทหรือตันละ 3,000 บาท เกษตรกรส่วนใหญ่ยอมกัดฟันเลือกเอากิโลกรัมละ 3 บาท แต่เมื่อถึงวันนัดจ่ายเงิน ฝ่ายเจ้าของลานมันบ่ายเบี่ยงจะให้เกษตรกรเลือกเอาปุ๋ย แม่วัว หรือเลือกเอาสินค้าที่ลานมันเอามาจำหน่ายแทนการจ่ายเงินสด ทางเกษตรกรจึงขอให้ทางตำรวจช่วยเหลือ โดยลงบันทึกประจำวันเอาไว้ก่อน

โดย นายสะอิ้ง สืบชาติ อายุ 72 ปี ชาว ต.ชุมแสง อ.นางรอง หนึ่งในเกษตรกรที่เดือดร้อน บอกว่าตนจะได้เงินจากขายมันสำปะหลังกว่า 100,000 บาท เป็นเงินสำหรับต่อยอดการทำเกษตร แต่กลับไม่ได้เงินดังกล่าว ยอมรับว่าเดือดร้อนไม่มีทางออกจึงไปลงบันทึกประจำวันเอาไว้ที่ สภ.ปะคำ แต่กลับโดยฟ้องว่า “แจ้งความเท็จ” ยอมรับว่าเสียใจ ทำการเกษตรลำบากอยู่แล้ว ยังต้องมาถูกเบี้ยวจ่ายและถูกฟ้องซ้ำอีก อยากจะให้นักกฎหมายที่ใจบุญมาช่วยเหลือเกษตรกรที่กำลังได้รับความเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้ด้วย เพราะตอนนี้ไม่มีเงินแม้จะเดินทางไปขึ้นศาลแล้ว

ขณะที่ นายจักร์กฤษ ร่วมกูล ปลัดฝ่ายความมั่นคง อ.นางรอง กล่าวว่า ตอนนี้ได้มารับเรื่องร้องทุกข์ของชาวบ้านเอาไว้แล้ว เบื้องต้นมีเกษตรกรได้รับความเดือดร้อนในหลายตำบล ที่ผ่านมาเกษตรกรได้มาปรึกษาขอความช่วยเหลือกับทางอำเภอ จึงประสานกับพนักงานสอบสวนเอาไว้แล้ว โดยจะเอาเอกสารทั้งหมดไปขอความช่วยเหลือกับอัยการคุ้มครองสิทธิเพื่อหาแนวทางการช่วยเหลือต่อไป.