การเลือกผลไม้ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผลไม้ที่มีค่าดัชนีน้ำตาล GI (Glycemic Index) ต่ำ เช่น “อะโวคาโด ส้ม แอปเปิล กีวี และพีช” ล้วนมีประโยชน์ ผลไม้เหล่านี้อุดมไปด้วยวิตามิน เส้นใยอาหาร สารต้านอนุมูลอิสระ และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ส่วนผลไม้ที่มีดัชนีน้ำตาลสูง เช่น “กล้วย” และ “มะม่วง” ควรหลีกเลี่ยงเพื่อไม่ให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้นกะทันหัน
ดัชนีน้ำตาล GI หรือ Glycemic Index เป็นตัวเลขที่บ่งบอกถึงความเร็วของอาหารหลังรับประทาน และถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย จะเปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้ช้าหรือเร็ว อาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูง เมื่อเข้าสู่ร่างกาย คาร์โบไฮเดรตจะถูกย่อยและดูดซึมอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้น้ำตาลในเลือดสูงและลดลงอย่างรวดเร็ว ร่างกายจึงต้องการอาหารอื่นเพิ่ม ทำให้รู้สึกหิวบ่อย อาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ (น้อยกว่า 55) ควรเลือกบริโภค, อาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลปานกลาง (55–70) เลือกบริโภคพอประมาณ และอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูง (มากกว่า 70) เลือกบริโภคแต่น้อย
ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรเลือกอาหารอย่างไร?
การเลือกอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานเป็นเรื่องยากมาก ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพกล่าวว่าอาหารที่มีเส้นใย โปรตีน และสารต้านอนุมูลอิสระสูง ถือว่าเป็นมิตรกับโรคเบาหวาน ส่วนอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต น้ำตาล และอาหารแปรรูปสูงนั้น ไม่เหมาะ นอกจากนี้ผักและผลไม้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และสารอาหารรองอื่นๆ สูงซึ่งถือว่าดีต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน
อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึงการบริโภคผลไม้ สิ่งสำคัญคือต้องเลือกพันธุ์ที่มีค่า GI ต่ำ และมีรสหวานน้อย ไม่แนะนำ กล้วย มะม่วง และแตงโม สำหรับผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 เนื่องจากผลไม้มีน้ำตาลธรรมชาติที่เรียกว่าฟรุกโตสสูง เมื่อเข้าสู่ร่างกาย ตับจะสลายตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้นได้
สมาคมโรคเบาหวานแห่งอเมริกา (American Diabetes Association) ได้เปิดเผยรายชื่อผลไม้ 5 ชนิดที่เป็น “สุดยอดผลไม้สำหรับคนเป็นโรคเบาหวาน” เนื่องจากมีวิตามิน แร่ธาตุ และเส้นใยสูง GI ต่ำ ซึ่งหมายความว่าจะทำให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นช้าลงและน้อยลง
- อะโวคาโด
ผลไม้ที่เหมาะกับโรคเบาหวาน มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ เส้นใยสูง มีโพแทสเซียม แมกนีเซียม สารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามิน C, K, E และ B อะโวคาโดมีคาร์โบไฮเดรตต่ำ มีผลกระทบต่อระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ อะโวคาโดยังมีไขมันที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยปรับปรุงสุขภาพของหัวใจ ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยย่อยอาหาร และช่วยควบคุมน้ำหนัก
- ส้ม
แหล่งวิตามิน C ที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ส้มประกอบด้วยเส้นใย แร่ธาตุ วิตามิน สารต้านอนุมูลอิสระ และคาร์โบไฮเดรต มีผลเพียงเล็กน้อยต่อระดับน้ำตาลในเลือด เหมาะสำหรับการย่อยอาหาร สร้างระบบภูมิคุ้มกัน รวมถึงสุขภาพหัวใจ และผิวหนัง
- แอปเปิล
ผลไม้ที่เหมาะกับโรคเบาหวาน มีดัชนีน้ำตาลในเลือดต่ำ เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดปานกลาง แทนที่จะทำให้พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว แอปเปิลประกอบด้วยวิตามิน A, C และ B, แร่ธาตุ, เส้นใยอาหาร, คาร์โบไฮเดรต และสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ปรับปรุงสุขภาพของหัวใจ และส่งเสริมสุขภาพของลำไส้
- กีวี
มีดัชนีน้ำตาลในเลือดต่ำ ช่วยชะลอกระบวนการเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด ประกอบด้วยวิตามิน C, K, A, E, แร่ธาตุ, โพแทสเซียม, แมกนีเซียม, แคลเซียม, ไฟเบอร์, สารต้านอนุมูลอิสระ และคาร์โบไฮเดรต กีวีช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ปรับปรุงสุขภาพของหัวใจ ผิวหนัง ดวงตา และช่วยควบคุมน้ำหนัก
- ลูกพีช
มีดัชนีน้ำตาลในเลือดต่ำ ชะลอการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำตาลในเลือด อุดมไปด้วยวิตามิน C, A, E, K, แร่ธาตุ, ไฟเบอร์, คาร์โบไฮเดรตและสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ปรับปรุงการย่อยอาหาร เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ ดวงตา และผิวหนัง.
ที่มาและภาพ : Timesofindia, soha, Joseph Mucira, NoName_13, Couleur, fernando zhiminaicela / Pixabay