เมื่อวันที่ 26 ต.ค. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างเกิดภาวะน้ำท่วมขังชุมชนริมตลิ่งนอกคันกั้นน้ำ ล่าสุด ศปช. ได้บริหารจัดการน้ำ เพื่อควบคุมไม่ให้เกิดผลกระทบขยายวงกว้าง โดยกรมชลประทานจะปรับการใช้พื้นที่ว่างเหนือเขื่อนเจ้าพระยาชะลอน้ำไว้ ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มในพื้นที่ ดังนี้ อ.เมืองอุทัยธานี จ.อุทัยธานี, อ.มโนรมย์ อ.เมืองชัยนาท อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท และจะกระทบเฉพาะพื้นที่ริมตลิ่ง และมีผลกระทบคาดว่าระดับน้ำจะสูงขึ้นประมาณ 10-20 เซนติเมตร (ซม.) สำหรับสถานการณ์พายุโซนร้อน “จ่ามี” ขณะนี้อยู่บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนกำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกเข้าใกล้ทางตอนใต้ของเกาะไหหลำ ประเทศจีน อาจทำให้ประเทศไทยมีเมฆเพิ่ม และฝนตกหนักบางพื้นที่กับมีลมแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านตะวันออกของภาคอีสาน ได้แก่ จ.สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ ยโสธร อุบลราชธานี และศรีสะเกษ ส่วนพื้นที่ภาคใต้ต้องเฝ้าระวังฝนตกหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝั่งอันดามัน ในช่วงที่พายุเคลื่อนเข้ามาใกล้ชายฝั่งเวียดนาม ก่อนที่อากาศทั่วไทยจะเริ่มเย็นลงตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค. นี้

“ในช่วงวันที่ 30 ต.ค. เป็นต้นไป อากาศจะเริ่มเย็นลงโดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพของตนเองในช่วงที่สภาพอากาศเริ่มเปลี่ยนแปลงด้วย” นายจิรายุ กล่าว

นายจิรายุ กล่าวอีกว่า ศปช. ได้คาดการณ์จะมีฝนตกหนักในพื้นที่ในช่วงวันที่ 26-28 ต.ค. 2567 ในพื้นที่ดังนี้ ภาคใต้ อ.เมือง อ.ถลาง จ.ภูเก็ต อ.ละงู อ.ทุ่งหว้า อ.ควนกาหลง จ.สตูล อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ส่วนภาคตะวันออกที่ อ.เกาะกูด อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ภาคตะวันตกที่ อ.จอมบึง จ.ราชบุรี, อ.บ่อพลอย อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี รวมทั้ง ภาคเหนือตอนบนและตอนล่าง ยังมีฝนที่ อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน อ.เมืองอุตรดิตถ์ อ.ทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ ขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว ระมัดระวังอันตรายจากที่ฝนตกหนักด้วย