วานนี้ (23 ต.ค. 2567) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานกรณีของครอบครัวผู้ตายจากนิวเจอร์ซีย์ ฟ้องร้องฌาปนสถานที่ทำงานผิดพลาด นำศพของคนแปลกหน้ามาใส่ไว้ในโลงของผู้ตาย ซ้ำยังพยายามปัดความรับผิดชอบ

ครอบครัวของ แอดดิสัน เจนคินส์ ผู้ตายวัย 81 ปี จากนิวเจอร์ซีย์ ยื่นฟ้องร้องต่อศาลเมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา โดยกล่าวหาว่าฌาปนสถานที่ชื่อว่า บอยด์ ฟิวเนอรัลโฮม นำศพของบุคคลอื่นมาสวมเสื้อผ้าของผู้ตายและนำร่างนั้นใส่ไว้ในโลงศพของผู้ตาย

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่เจนคินส์ เสียชีวิตในเดือน ก.พ. 2566 และครอบครัวตกลงมอบหมายให้บอยด์ ฟิวเนอรัลโฮม เป็นผู้ดูแลจัดพิธีศพและไว้อาลัยผู้ตาย แต่เมื่อภรรยาม่ายของเจนคินส์กับลูก ๆ ของเขาเปิดโลงเพื่อดูหน้าชายผู้เป็นที่รักเป็นครั้งสุดท้าย พวกเขาก็ต้องตกใจ เมื่อพบว่าร่างที่อยู่ในโลงศพไม่ใช่เจนคินส์ แต่ศพแปลกหน้าร่างนี้สวมเสื้อผ้าของเขาอย่างครบถ้วน

ญาติ ๆ ของเจนคินส์รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ของบอยด์ ฟิวเนอรัลฯ แต่กลับได้รับคำยืนยันว่า ร่างที่อยู่ในโลงคือร่างของเจนคินส์ ซึ่งทางครอบครัวของผู้ตายได้กล่าวหาด้วยว่า ทางฌาปนสถานแสดงท่าทีว่า ไม่สนใจต่อความกังวลของพวกเขาเลยแม้แต่น้อย 

ครอบครัวของเจนคินส์จึงตัดสินใจยื่นฟ้องต่อศาลสูงรัฐนิวเจอร์ซีย์ โดยระบุรายละเอียดว่า ครอบครัวของเจนคินส์ได้ไปที่ฌาปนสถานเมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2566 ซึ่งเป็นวันก่อนวันทำพิธีไว้อาลัยเพื่อสำรวจความเรียบร้อย และรู้สึก “ทุกข์ใจ” อย่างมาก เมื่อเห็นศพของชายแปลกหน้าในโลงศพของเจนคินส์ และสวมเสื้อผ้าของเขาด้วย

ฝ่ายโจทก์อ้างว่าสถานการณ์ดังกล่าว สร้างความสับสนและตื่นตกใจจนถึงกับหลั่งน้ำตาออกมา แต่เมื่อแจ้งความผิดพลาดไปยังบอยด์ ฟิวเนอรัลฯ ก็ได้รับคำตอบว่าผู้อำนวยการสถานที่ยังไม่ว่าง 

ฝ่ายโจทก์ยังอ้างถึงพนักงานอีกคนหนึ่งของบอยด์ ฟิวเนอรัลฯ ว่า ได้นำข้อความที่ส่งมาจากผู้อำนวยการคนดังกล่าวมาให้พวกเขาดู โดยเนื้อหาระบุว่าศพนั้นเป็นศพของเจนคินส์อย่างแน่นอน

นอกจากนี้ ช่างแต่งหน้าศพประจำฌาปนสถานก็ยืนกรานอีกเสียงว่า ศพที่อยู่ในโลงนั้นคือศพของเจนคินส์ แต่ครอบครัวของผู้ตายปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง โดยชี้ว่า เจนคินส์ไม่มี “ใบหูผิดรูป” และเขาไม่เคยมีอาการติดเชื้อที่เท้าเหมือนศพแปลกหน้าที่พวกเขาเห็นอยู่ในโลงของเจนคินส์

อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงวันงานพิธีซึ่งจะมีการเปิดโลงให้แขกที่เข้าร่วมได้เห็นใบหน้าของผู้ตายเป็นครั้งสุดท้าย ครอบครัวของเจนคินส์ได้ขอให้ผู้อำนวยการสถานที่เปิดโลงดูอีกครั้ง คราวนี้พวกเขาพบว่าศพของเจนคินส์ ได้กลับมาอยู่ในโลงอย่างถูกต้อง ไม่ใช่ศพของชายแปลกหน้า

ครอบครัวของแอดดิสันตัดสินใจยื่นฟ้องฌาปนสถานดังกล่าวโดยอ้างว่า “ได้รับความทุกข์ทางจิตใจอย่างรุนแรง” และมีการจัดการศพอย่างไม่เหมาะสม จึงขอให้มีการพิจารณาคดีและตัดสินโดยคณะลูกขุน รวมทั้งเรียกร้องค่าชดเชยจากฌาปนสถานดังกล่าว

ไมเคิล ชอว์ ทนายความที่เป็นตัวแทนของครอบครัวกล่าวในแถลงการณ์ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวเจนกินส์และผู้ตายซึ่งเป็นบุคคลอันเป็นที่รัก เป็นเรื่องที่น่าตำหนิและทำร้ายจิตใจครอบครัวผู้ตาย 

เขายังกล่าวหาบอยด์ ฟิวเนอรัลโฮม ว่าต้องการบิดเบือนข้อเท็จจริง หลังจากที่ทางครอบครัวผู้ตายแจ้งถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้น แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังพยายามโยนความผิดไปที่ลูกค้าที่กำลังโศกเศร้าของเขา ด้วยการบอกซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าศพของชายแปลกหน้าคือศพของผู้ตาย ถือเป็น “การกระทำที่โหดร้ายและไร้ศักดิ์ศรีอย่างยิ่ง”

ที่มา : ladbible.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES, Google Maps