ในปัจจุบัน ผู้บริโภคมีทางเลือกหลากหลายในการเสพสื่อ การชมกีฬาหรือการดูคอนเทนต์ไม่ได้มีเฉพาะบนจอทีวีอีกต่อไป

การเข้ามาของแพลตฟอร์ม “สตรีมมิง” ทำให้โลกของสื่อเปลี่ยนไป คนเลือกได้ว่า อยากดูอะไร ไม่จำเป็นต้องถูกยัดเยียดให้ดู หรือต้องรอชมอะไรอีกแล้ว อยากดูรายการไหน ก็เสิร์ชหาแล้วดูได้เลย

“กีฬา” ก็เป็นอีกหนึ่งคอนเทนต์ที่มีการแข่งขันสูง ทำให้แต่ละเจ้าต้องพัฒนาแพลตฟอร์มของตัวเองเพื่อดึงดูดลูกค้า เพราะถ้าวางแผนพลาด หรือช้ากว่าคู่แข่งนิดเดียว อาจถูกแย่งชิงฐานลูกค้าไปหมด

อีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่การแข่งขันเริ่มดุเดือด และคาดว่าจะดุเดือดกว่านี้อีกมากในอนาตก็คือ การดูคอนเทนต์ได้ทุกที่ ทุกเวลาที่ต้องการ ผ่านโทรศัพท์มือถือหรือแท็ปเลต

ง่ายที่สุดก็คือ ยูทูบ ที่สะดวกสบาย ส่วนใหญ่ฟรี แถมยังมีเทคโนโลยีที่ให้ความละเอียดคมชัดได้สูง ผู้ประกอบการหลายเจ้า อย่างเช่น “บีจีสปอร์ตส์” จึงหันมาเน้นจุดนี้เต็มตัว

ในอนาคตเชื่อว่าน่าจะมีคนลงมาเล่นในตลาดนี้กันอีก เพราะบีจีสปอร์ตส์ถือว่าทำได้ดีทีเดียว ทั้งเรื่องคอนเทนต์ และเทคโนโลยี แต่เรื่องการเก็บค่าบริการอาจมีปัญหา เพราะคนส่วนใหญ่ยังเข้าใจว่ายูทูบต้องดูฟรี รวมถึงลิขสิทธิ์ ที่ถูกใครก็ได้ดึงไปใช้ได้ง่าย

หรืออย่าง “ทรู” ที่มีแอปพลิเคชั่น “ทรูวิชั่นส์นาว” ซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์การชมคอนเทนต์ของคนยุคนี้โดยเฉพาะ เพราะแค่โหลดแอปฯ ลงมือถือหรือแท็ปเลต ก็สามารถดูรายการที่ต้องการได้ตลอดเวลา

นี่คือ “เรือธง” ที่ทางทรูหมายมั่นปั้นมือว่าจะสร้างขึ้นมาให้ปัง เพื่อทดแทนการดูแบบเดิม ทั้งเคเบิ้ล, จาน, กล่องทรูวิชั่นส์ หรือกระทั่งกล่องทรูไอดี

เพราะเทคโนโลยีการดูทีวีกำลังจะเดินลงสู่มือถือทั้งหมด พวกกล่องหรือจานต่างๆ จะไม่ถูกพัฒนาอีกแล้ว ต่อไปในอนาคต เหล่านี้ก็จะค่อยๆหมดไป หลงเหลือแต่แอปพลิเคชั่นและสตรีมมิ่ง

ถามว่าแล้วคนรุ่นเก่าที่อาจจะยังไม่คุ้นเคยหรือไม่พร้อมปรับตัวจะทำยังไง? คำตอบก็คือ ทำอะไรไม่ได้ ยังไงก็ต้องปรับ เพราะยังไงเสียในอนาคตมันก็ต้องเปลี่ยน

การเปลี่ยนแปลงคือธรรมดาของโลก และในมุมของนักธุรกิจ เชื่อเถิดว่า เขาก็มองเห็น และให้ความสำคัญกับจุดนี้ ดังนั้น เขาจึงจะต้องพัฒนาให้มันดีขึ้น ไม่แย่ลง ขอแค่คุณเปิดใจ ลองปรับดู ก็จะรู้ว่า ไม่ได้ยากเกินไป และอาจจะดีกว่าที่ใช้อยู่ด้วยซ้ำ

อย่างทรูวิชั่นส์นาวที่ใช้กันอยู่ ถึงแม้จะเป็นแอปฯบนมือถือ แต่ก็สามารถสตรีมขึ้นจอทีวีได้ไม่ยาก สามารถดูผ่านทีวีจอใหญ่ที่คุ้นเคยได้เหมือนเดิม และยังดูทุกอย่างได้ที่ต้องการตลอดเวลา ไม่ต้องรอรันตามตารางออกอากาศทางทรูวิชั่นส์ปกติ

อีกข้อดีคือรวมทุกคอนเทนต์ไว้ในแอปฯเดียว ดูได้ทั้งข่าว-บันเทิง-กีฬา อีกยังไม่มีโฆษณาคั่นตอนเปลี่ยนช่องเหมือนที่คนดูทรูไอดีชอบบ่นด้วย และที่สำคัญที่สุดคือ ดูรายการย้อนหลังได้ทันทีถึง 7 วัน และสามารถเลือกย้อนไปดูช็อตที่ต้องการได้ตลอดเวลา

ทั้งหมดที่กล่าวมา แน่นอนว่า ย่อมมีค่าใช้จ่ายตามมา ถูก-แพงก็ว่ากันไป เพราะอย่างที่บอกว่า ในปัจจุบัน และอนาคต การจะดูอะไรฟรีๆ (โดยเฉพาะกีฬา) คงไม่มีอีกต่อไป ทุกคอนเทนต์คือของมีค่า ที่คนอยากดูต้องจ่ายทั้งสิ้น

ดังนั้น อยากดูอะไรก็เลือกดูดีๆ ตามที่เหมาะสม เอาที่ตัวเองคิดว่าไหวก็พอ แล้วก็อย่าไปดูเถื่อนก็แล้วกัน.