เป็นอีกช่วงสัปดาห์ที่มีภาพยนตร์น่าดู เข้าฉายชนกันหลายเรื่อง โดยเฉพาะแชมป์เก่าอย่าง “ธี่หยด 2” ที่มีผู้เข้ามาชมกันตลอดทุกรอบฉาย หลังจากผ่านไป 1 สัปดาห์ รายได้ (ทั่วประเทศ) ก็พุ่งทะยานไปกว่า 600 ล้านบาทแล้ว คาดว่าคงจะเข้าเป้าหมาย 1,000 ล้าน อย่างไม่ต้องสงสัย สำหรับหนังใหม่ในช่วงปลายเดือนตุลาคมล่าสุด ที่พร้อมจะท้าชิงรายได้คงไม่พ้น “เวน่อม มหาศึกอสูรอหังการ” หรือ VENOM: THE LAST DANCE แอ๊คชั่นแอนตี้ฮีโร่จากค่ายดัง “Sony Pictures Entertainment” ซึ่ง “หมีเช” ได้รีวิวไปเรียบร้อยแล้ว จึงเหลือเพียงหนังอีกเรื่องหนึ่ง ที่อาจหาญกล้าท้าชนทั้งแชมป์เก่าและผู้ท้าชิงรายใหม่ มีชื่อยาว ๆ ประหลาด ๆ อย่าง “Humanist Vampire Seeking Consenting Suicidal Person: แวมไพร์ใจอารี อยากจะขอกัดคอเธอดี ๆ ได้ไหมจ๊ะ” ที่ แม้โรงและรอบฉายน้อยนิด แต่ทว่ากลับเรียกเสียงของเหล่านักวิจารณ์ได้อย่างน่าสนใจ
สำหรับ Humanist Vampire (ขออนุญาตย่อชื่อ) เป็นหนังแนว โรแมนติก ดราม่า คอมเมดี้ ความยาว 91 นาที บอกเล่าเรื่องราวของ “ซาช่า” (รบบทโดย ซารา มอนท์เพทิท) แวมไพร์เด็กน้อยในบ้านผีดูดเลือดที่ประสบปัญหา คือ เธอกลัวการออกล่าคน แต่เธอก็ต้องกินเลือด ทำให้ทางบ้านต้องส่งไปฝึกล่าคนกับคุณป้าผีดูดเลือดสุดโหด ในขณะเดียวกัน เธอก็แอบมีใจให้ “พอล” (รับบทโดย เฟลิกซ์ อองตวน เบนาร์ด) หนุ่มน้อยน่ารัก ที่ดันหมดอาลัยตายอยาก นั่นจึงทำให้เธอกำลังตัดสินใจว่า “…จะชอบเขา…หรือจะกินเขาดีนะ…”
จุดแข็ง ใครที่คิดว่านี่เป็นงานขายหนังแนวแวมไพร์แบบสยดสยอง โชว์หวือหวา ขอให้เลิกคิดไปได้เลย เพราะนี่คือหนังที่สะท้อนมุมมองของชีวิตวัยรุ่นยุค 2024 แต่มีความคลาสสิก โรแมนติก ตลกร้าย ๆ ปะปนผสมผสานกันอย่างน่าสนใจ แม้งานโปรดักชั่นจะไม่หวือหวา ดำเนินเรื่องก็รวดเร็ว แต่บทหนังแข็งแรงมาก โดยเฉพาะ “นางเอก” ที่เปิดปมด้วยปัญหาสังคมครอบครัวสมัยใหม่ ถ้าจะให้บอกความรู้สึกอารมณ์ประมาณ “นางเอก” มีลักษณะเหมือนคนทั่ว ๆ ไป คือไม่ฆ่าสัตว์ แต่ก็ยังกินเนื้อสัตว์นั้น ๆ เช่น ไปกินชาบู-หมูกระทะ แต่ก็คงจะไม่เชือดหมูด้วยตัวเอง
ดังนั้นบทบาทของแวมไพร์อย่างเธอ จึงเลือกที่กินเลือดในถุงมากกว่ากัดคอเหยื่อ ขณะที่ “พระเอก” ของเรื่อง เหมือนเป็นตัวขโมยซีน คอยช็อตฟีล สตั๊นต์ เมื่อทั้งคู่มาเจอกัน เคมีของคู่พระ-นาง ปรากฏว่าลงตัวสุด ๆ บทของคนหนึ่งพยายามมีชีวิตทั้งที่มีปัญหา ขณะที่อีกคนบอกให้จบชีวิตผมเถอะเพื่อหนีปัญหา การที่ “ซารา” กับ “เฟลิกซ์” สวมบทตัวละครแล้วเล่นออกมาได้ดีเยี่ยม แสดงว่าต้องทำการบ้านมาหนักมาก จนเข้าใจสภาพและสถานการณ์ เพื่อดึงให้อารมณ์ของตัวละครมืดและดำดิ่งที่สุด
จุดอ่อน เมื่อไม่มีฉากแอ๊คชั่นเลือดเดือด หรือการโชว์หวิวหวือหวา มีแต่ฉากนั่งคุยเหมือนชมรม “จิตบำบัด” อีกทั้งการดำเนินเรื่องดูแบบเพลิน ๆ น่ารัก ๆ ดังนั้น คอหนังแนวโหด ๆ สยองขวัญบอกลาไปได้เลย ผู้ชมก็ต้องตั้งใจและมีสมาธิในการชมพอสมควร ใครกินข้าวมาอิ่ม ๆ หลับแน่นอน…
3/5 กะโหลก เป็นหนังดราม่าที่ให้แง่คิดมากมาย สะท้อนมุมมองของคนรุ่นใหม่ ฟิลหนังตลกร้าย ๆ อาจโดนใจจนต้องอมยิ้ม เคมีพระเอก-นางเอก เข้ากันได้ดีงาม อบอุ่นหัวใจ หนังอาจไม่เหมาะกับคนสมาธิสั้น เพราะคุยกันทั้งเรื่อง แนะนำว่าอย่าเพิ่งทานข้าวมาอิ่ม ๆ เจอแอร์เย็น ๆ หนังเนือย ๆ มีโงกเงก อาจทำให้ผู้ชมไปเฝ้าพระอินทร์ตั้งแต่ 20 นาทีแรก สำหรับคอหนังแนวรัก ๆ อาจต้องเสียดาย เพราะโรงและรอบฉาย น้อยนิดซะเหลือเกิน.
